หากคุณกำลังมองหาปลายทางในการผจญภัยและท่องเที่ยวในภาคใต้ของประเทศไทย ชุมพร อาจไม่ใช่สถานที่ที่คุณควรพิจารณาเพราะความหลอนที่มีติดตัวมากมายในโรงแรมที่นี่ เรามาสำรวจเหตุผลที่โรงแรมชุมพรถึงขั้นติดอันดับในรายการสถานที่น่ากลัวที่สุด!
1. ประวัติความหลอนของโรงแรมชุมพร
เริ่มต้นด้วยการรู้จักกับประวัติความหลอนของโรงแรมชุมพร ที่เคยเป็นสถานที่ประจำของคดีฆาตกรรมและเรื่องราวผีสยองขวัญ เหล่านักท่องเที่ยวที่เข้าพักในที่นี่กล่าวกันว่าได้รับการเข้าแถวด้วยประสบการณ์ของพวกเขาที่น่าสยดสยองและลึกลับ ไม่น่าแปลกใจที่คนทั่วไปเริ่มสนใจว่าทำไมโรงแรมชุมพรถึงมีชื่อเสียงเหล่านี้!
2. เรื่องราวของผู้เข้าพักที่ละลาย
แต่งกายเป็นเรื่องสำคัญในการเข้าพักที่โรงแรมชุมพร ผู้เข้าพักบางคนได้รับการเห็นเหตุการณ์ละลายที่ทำให้พวกเขาต้องหนีออกจากห้องพักในเวลากลางคืน ไม่ว่าจะเป็นเสียงกระแทกหรือเหตุการณ์ที่ไม่สามารถอธิบายได้ ความเชื่อในผีและสิ่งผีสยองขวัญก็เกิดขึ้นจากประสบการณ์ดังกล่าว
3. อิทธิพลต่อการท่องเที่ยว
ความหลอนของโรงแรมชุมพรได้ส่งผลต่อการท่องเที่ยวในพื้นที่นี้ มีผู้คนที่มาเยี่ยมชมเพื่อตรวจสอบความหลอนของที่นี่ด้วยตนเอง นอกจากนี้ยังมีนักท่องเที่ยวที่ต้องการทดลองความกล้าของตนเองโดยการเข้าพักในห้องที่มีเรื่องราวน่าสยดสยอง
4. สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อในความหลอนของโรงแรมชุมพร เขตใกล้เคียงก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่มากมาย เช่น ชายหาดทรายขาวที่นุ่มนวลและน้ำทะเลที่ใสสดใส หรือวัดที่มีประวัติความเชื่อและศิลปวัฒนธรรมที่น่าสนใจ
5. การบริการและความเอาใจใส่
นักท่องเที่ยวบางคนกล่าวว่าโรงแรมชุมพรมีการบริการที่ดีและความเอาใจใส่ในการต้อนรับผู้เข้าพัก ถึงแม้ว่าจะมีเรื่องราวที่น่าสยดสยองเกิดขึ้น แต่พนักงานของโรงแรมพยายามที่จะให้บริการที่ดีที่สุดเพื่อให้คุณรู้สึกอยู่ในที่ที่ปลอดภัยและสบายๆ
6. สิ่งที่ควรรู้ก่อนเข้าพัก
หากคุณตัดสินใจที่จะมาเยี่ยมชมโรงแรมชุมพร ควรรู้ว่าจะต้องพร้อมใจเสมอกับความหลอนและประสบการณ์ที่อาจเกิดขึ้น แต่อย่าลืมว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ในเขตใกล้เคียงที่คุณสามารถสนุกสนานและผ่อนคลายได้
7. สรุปความหลอนและความน่าสนใจ
โรงแรมชุมพรอาจเป็นที่มีความหลอนและร้ายแรง แต่ก็ไม่สามารถประมาทไปในเส้นทางการท่องเที่ยวในภาคใต้ ความหลอนที่มาพร้อมกับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจทำให้ชุมพรเป็นที่มีความเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร
FAQs
1. โรงแรมชุมพรเหมือนอย่างไร?
โรงแรมชุมพรมีชื่อเสียงเรื่องความหลอน มีเรื่องราวลึกลับและผีสยองขวัญที่ผู้คนมาแชร์กันอย่างกว้างขวาง
2. มีเรื่องราวของผีหรือเหตุการณ์ละลายที่น่าสนใจอย่างไร?
ผู้เข้าพักบางคนได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเสียงดังในห้องและการเห็นเหตุการณ์ละลายที่ไม่ธรรมดาในโรงแรมชุมพร
3. มีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงที่น่าสนใจอะไรบ้าง?
ชุมพรยังมีชายหาดทรายขาวและวัดที่มีความเชื่อและประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจในเขตใกล้เคียง
4. โรงแรมชุมพรเหมาะสำหรับใคร?
สำหรับผู้คนที่ชื่นชอบการผจญภัยและท้าทายความกล้า และเสมอมากับความเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร
5. ที่นี่คือสถานที่แนะนำหรือไม่?
ถ้าคุณมองหาประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ไม่เหมือนใครและไม่กลัวความหลอน โรงแรมชุมพรอาจเป็นเลือกที่น่าสนใจสำหรับคุณ
โรงแรมชุมพร ใครๆก็รู้ว่าที่นี่น่ากลัวจนติดอันดับ l เพื่อนเล่าเรื่องผี EP.194 l BuddyGhostStory [VIDEO]
“Buddy Ghost Story เพื่อนเล่าเรื่องผี
เล่าเรื่องผี แบบเล่าให้เพื่อนฟัง
ลงเรื่องใหม่ตลอด ให้ช่องนี้เป็นเพื่อนคุณนะครับ
ช่องทางการติดต่อสำหรับทางช่อง
มีประสบการณ์ อยากให้ถ่ายทอดเรื่องไหน
สามารถส่ง Email มาให้ผมถ่ายทอดได้เลยนะครับ
Email : Buddyghoststory@gmail.com
#เรื่องเล่าผี #เรื่องผี #เรื่องผีก่อนนอน #เล่าเรื่องผี
#เล่าเรื่อง #เล่าเรื่องหลอน #เรื่องหลอน
ถ้าชื่นชอบเรื่องผี หรือเรื่องสยองขวัญ
ฝากกดติดตาม Subscribe เพื่อไม่พลาดเรื่องใหม่ๆ
และกดกระดิ่งเพื่อเพิ่มการแจ้งเตือน
รบกวนกด Like เพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะครับ”
เนื้อหาของวิดีโอ โรงแรมชุมพร ใครๆก็รู้ว่าที่นี่น่ากลัวจนติดอันดับ l เพื่อนเล่าเรื่องผี EP.194 l BuddyGhostStory
เพื่อนๆจำเรื่องราวของโรงแรมที่ชุมพรกันได้ไหมครับ โดยเรื่องราวนั้นผมเล่าไว้ค่อนข้างจะนานมากแล้ว แล้ววันนี้ก็เช่นเดียวกัน วันนี้ผมมีเรื่องราวเกี่ยวกับโรงแรม ของขวัญที่ชุมพร 1 เรื่อง มาเล่าให้ฟัง ส่วนเรื่องราวจะเป็นยังไงนั้น เป็นโรงแรมเดียวกันหรือเปล่า ยังไงเพื่อนๆลองรับฟังเรื่องนี้ดูนะครับ ถ้าเพื่อนๆพร้อมกันแล้ว เรามาฟังเรื่องนี้กันดีกว่าครับ เรื่องราวที่ผมจะเล่าให้ฟังต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวของคุณโจครับ โดยเรื่องนี้ต้องย้อนหลังกลับไปเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว คุณโจเล่าให้ฟังว่า โดยส่วนตัวของคุณโจเอง รับราชการเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจครับ ในตอนนั้นตัวคุณโจได้มีโอกาส ติดตามเจ้านาย ไปราชการที่ชุมพรจำนวน 1 คืน โดยการทำงานในรอบนั้นนะครับ ตัวคุณโจเดินทางพร้อมกับเพื่อน แล้วพล อีก 1 คน ในทริปนี้เจ้านายได้เดินทางไปพร้อมกับครอบครัวด้วยครับ เมื่อเดินทางไปถึงก็ได้เข้าพักที่โรงแรมแห่งนี้ ซึ่งตอนนั้นถือว่าเป็นโรงแรมที่ใหญ่มากนะครับ ทั้งทีมงานตอนนั้นนะครับ รวมถึงเจ้านายด้วยก็ได้เข้าพักที่ชั้น 9 แต่ตัวของเจ้านายจะแตกต่างสักนิดนึงครับ ตัวเจ้านายจะพักที่ห้องสูตร ส่วนทีมงานที่เหลือก็จะพักในห้องตามปกติทั่วไป แต่ห้องพักทั้งหมดก็อยู่ใกล้เคียงกันนะครับ เดอะมอลล์ไปถึงที่โรงแรมแห่งนี้ ทางเจ้านายเนี่ยได้บอกว่า ในช่วงเย็นของวันนั้นนะครับ ทางผู้ใหญ่ในจังหวัดจะจัดเลี้ยง ที่ห้องคาราโอเกะที่ด้านล่าง กว่าจะถึงตอนนั้นให้ทีมงานลงไปหาอะไรกินกันก่อนได้เลย เสร็จแล้วถ้าช่วงระหว่างรอถ้าเกิดเบื่อ อยากจะนวดหรือออกไปข้างนอก ก็แล้วแต่ตามใจ พอถึงช่วงเวลาการจัดเลี้ยงก็เกิดขึ้นครับ ที่ห้องคาราโอ เขตด้านล่าง ซึ่งห้องคาราโอเกะนี้จะอยู่ กับห้องนวดแผนโบราณเลยครับ ในตอนนั้นเจ้านายกับครอบครัวก็ได้นั่ง ทานข้าวแล้วก็ร้องคาราโอเกะไปเรื่อยๆ จนสักพักครับ ทางครอบครัวของเจ้านายได้ขอตัวครับขึ้นไปนอนพักผ่อนบนห้อง เมื่อคุณโจกับทีมงานเห็นแบบนั้นก็เลยขออนุญาตเจ้านาย ได้เหมือนกันครับ ขอขับรถออกไปข้างนอก กะว่าจะขับออกไปเดินดูตัวเมืองแล้วเดินเที่ยวตลาดดูสักหน่อย ทั้งสามคนก็ได้ขับรถออกจากโรงแรมครับ แล้วก็ไปเดินเที่ยวดูนั่นดูนี่ จนเวลาล่วงเลยผ่านมาประมาณตี 2 หลังจากนั้นทั้งสามคนก็เดินทางกลับมาที่โรงแรมครับ แต่ว่าตอนที่ขับรถกลับมาในครั้งแรก ทั้ง 3 คนหาโรงแรมไม่เจอครับ ขับเลยโรงแรม เพราะว่าตอนนั้นไม่มีใครมองเห็นทางเข้าโรงแรมเลย จนสุดท้ายก็ต้องวนรถกลับมาอีกรอบนึง แล้วพบว่า ตอนนี้โรงแรมทั้งโรงแรมนะครับ ไฟ ปรับเกือบทั้งหมด เมื่อเห็นแบบนั้นคุณโจหลังจากที่จอดรถได้ก็รีบวิ่งเข้าไปในโรงแรมทันทีครับ พอด้วยความที่เป็นห่วงเจ้านาย พอถึงที่รีเซฟชั่น ก็ปรากฏว่าไม่พบพนักงานเลยแม้แต่คนเดียว บนเคาน์เตอร์มีกระดิ่งที่ใช้สำหรับเรียกอยู่นะครับ คุณโจก็เลยกดไป ทั้ง 3 คนได้แต่ยืนรออยู่แบบนั้นครับ จนสักพัก ก็มีน้องพนักงานคนนึงเดินมาจากทางด้านหลัง หน้าตาของพนักงานคนนั้นดูงัวเงียมากครับเหมือนคนเพิ่งตื่นนอน คุณโจเนี่ยได้สอบถามว่าทำไมไฟของโรงแรมเนี่ยมันถึงดับแบบนี้ ไฟดับหรือยัง ตรวจพนักงานเองแจ้งว่า ไปไม่ได้ดับ แต่ว่าเป็นนโยบายของทางโรงแรมครับ ที่ให้ดับไฟเพราะว่าอยากจะประหยัดไฟ ตอนที่คุณโจได้ยินเรื่องนี้คุณโจงงมากครับ เพราะเกิดมาไม่เคยได้ยินนโยบายแบบนี้มาก่อน เลย์สอบถามต่อว่าห้องนวดข้างล่างล่ะปิดหรือยัง ตัวพนักงานได้ตอบมาในทำนองที่ว่า ให้คุณโจเนี่ยลงไปดูเองครับ หลังจากนั้นน้องพนักงานผู้หญิงคนนี้ก็เดินออกไปจากวงสนทนา ตอนนั้นคุณโจไม่ได้คิดอะไรเลยครับ ตั้งใจว่าจะลงไปดูเจ้านายว่าท่านเป็นยังไงบ้าง พอลงไปถึง ก็เหมือนกับว่าตอนนี้คาราโอเกะได้เริ่มเก็บของกันแล้วครับ เจอกับกัปตันที่อยู่ในห้องนั้น ทางกัปตันเน็ตแจ้งว่าเจ้านายได้ขึ้นไปพักที่ห้องนานมากแล้วครับ เมื่อคุณโจถามย้ำจนแน่ใจว่าเจ้านายได้ขึ้นไปแล้ว คุณโจกับทีมงาน ก็เลยเดินกลับออกมาแล้วก็มาหยุดอยู่ที่หน้า คุณชอบกดลิฟท์ครับ ตัวลิฟต์ตรงนั้นมีอยู่ 2 ตัวนะครับคือตัวซ้าย กับตัวขวา หลังจากกดลิฟท์แล้วตัวซ้ายก็เปิดทันทีครับ แต่ที่น่าแปลกก็คือว่าไฟในลิฟท์ตัวนี้ไม่ติด แต่ด้วยความรีบร้อน และคิดว่าไฟในลิฟต์น่าจะเป็นแบบระบบเซ็นเซอร์หรือเปล่า ทั้งสามคนก็เลยเดินเข้าไปในลิฟต์ทันที แต่พอเดินเข้าไปไฟก็ยังไม่ติดเหมือนเดิม ตอนนี้ทุกคนก็เดินเข้าเดินออกวนเวียนอยู่กับลิฟท์ตัวนี้ครับ ดูว่ามันคืออะไรกันแน่ทำไมไฟมันถึงไม่ติด เมื่อเห็นแบบนั้นก็เลยเดินออกมายืนอยู่หน้าลิ และสังเกตว่าลิฟท์ตัวขวาเนี่ยมันอยู่ที่ชั้น 10 กว่าๆครับ เลยคิดว่ายังไงคงไม่ลงมาแน่นอนครับ ก็เลยตัดสินใจเดินขึ้นไปที่รีเซฟชั่นอีกครั้ง แล้วก็กดลิฟท์ที่บริเวณนั้น แต่พอกดแล้วครับลิฟท์ตัวขวามันก็ยังไม่ยอมลงมาอีกเหมือนเดิม คุณโจเลยตัดสินใจตะโกนเรียกน้องพนักงานผู้หญิงคนนั้นครับ สักพัก น้องพนักงานผู้หญิงคนนั้นคนเดิมก็เดินกลับมา พนักงานแจ้งว่าลิฟท์ตัวสายจะถูกปิดบริการช่วงเวลากลางคืน ใช้ได้แค่ตัวขวาเท่านั้น แต่คุณโจก็พยายามอธิบายนะครับ ว่าตัวสายเนี่ยมันใช้งานไม่ได้มันเปิดอยู่ที่ชั้นล่าง กดแล้วมันก็ไม่ขึ้น แล้วตัวขวามันก็ไม่ยอมลงมา ตัวพนักงานไม่เชื่อสิ่งที่คุณโจพูดครับ ได้แต่บอกว่า พี่เมาหรือเปล่า Live ตัวซ้ายมันใช้ไม่ได้แน่นอน เมื่อเป็นแบบนั้นทั้งสามคนไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงด้วยครับ เลยได้แต่ยืนกดลิ เพื่อรอให้ลิฟท์ตัวขวาลงมา ในระหว่างนั้นเองครับ อยู่ดีๆก็มีผู้หญิงคนนึง เดินขึ้นมาจากชั้นใต้ดิน ซึ่งเป็นบริเวณของร้านนวด หมัดและห้องคาราโอเกะ โดยในตอนนั้นคุณโจ คิดว่าผู้หญิงคนนี้น่าจะเป็นพนักงานนวดครับ พนักงานนวดคนนั้นได้ถามกันทั้ง 3 คนว่า จะขึ้นไปชั้นบนใช่ไหมคะ ตรวจพนักงานคนนี้บอกว่าเจ้าขอขึ้นไปด้วยครับ เพราะว่ามีลูกค้าเรียกใช้บริการที่ฉัน 19 หลังจากนั้นไม่นานลิฟท์ตัว ป๋าก็ลงมาจริงๆครับ และทั้ง 4 คนก็ได้ขึ้นลิฟท์เพื่อไปด้านบน บทสนทนาในตอนนั้นคือพนักงานนวดคนนี้บอกว่า เดี๋ยวอีกไม่นานพนักงานนวดคนอื่นๆจะ หลังจากที่ไปทานข้าวกันแล้ว แล้วก็จะมานั่งที่ล็อบบี้ ถ้าเกิดว่าอยากได้คนนวดแผนโบราณ ขึ้นไปนวดบนห้อง ก็สามารถเรียกได้ เมื่อรีบมาถึงชั้น 9 ตัวพนักงานนวดคน ได้หันมาบอกกันทั้ง 3 คนว่า โชคดีนะคะ เชื่อมต่อหนังคุณโจฟังแล้วรู้สึกแปลกๆมากครับ แต่ไม่รู้ว่าความหมายจริงๆมันคืออะไรกันแน่ ทั้งสามคนได้แต่เดินออกจากลิฟท์ครับ และหันมามองหน้ากัน เพื่อที่จะคุยถึงเรื่องนี้ แต่หลังจากที่ประตูลิฟท์ได้ปิดลง อยู่ดีๆ ไฟทั้งชั้น 9 ก็ได้ดับลงทันทีครับ ตอนนั้นทุกคนตกใจมากไม่คิดว่านโยบายประหยัดไฟ จะต้องถึงขั้นดับไฟกันถึงขนาด ก็เลยหยิบ ฉายที่พกติดตัวกันมา เปิดแล้วก็เดินต่อไปยังห้องพัก พอถึงห้องก็เปิดบทสนทนากันเลยครับ ว่าที่นี่มันดูมีอะไรแปลกๆหรือเปล่า และในตอนนั้นเริ่มมีความรู้สึกกลัวกันนิดหน่อยแล้วครับ แต่ก็ยังไม่ลืม เรื่องที่พนักงานนวดคนนั้นบอกนะครับ เลิกคุยกันว่าเดี๋ยวรอสัก 10 นาทีแล้วลงไปดูกันไหม แต่ด้วยความไม่แน่ใจครับ เลยคุยกันว่าเดี๋ยวจะลองโทรลงไปเช็คดูก่อน ว่าพนักงานนวดน่ะเขากลับมาที่โรงแรมหรือยัง หลังจากนั้นไม่นานก็ได้ลองโทรไปดูที่เคาน์เตอร์ครับ แต่ปรากฏว่าไม่มีใครรับสายเลย หลังจากรอสายหยุดสักพัก ก็มีพนักงานผู้ชายคนนึงรับโทรศัพท์ คุณโจเลยสอบถามครับว่าพนักงานนวดที่กลับมาเนี่ยกลับมาที่ล็อบบี้กันหรือยัง พนักงาน สายแจ้งว่า เริ่มมีคนกลับมาบ้างแล้วแต่ว่าพี่ต้องลงมาเลือกเองนะ แล้วอยู่ๆพนักงานคนนั้นก็วางสายไปทันทีครับ คุณโจเลยตัดสินใจว่าเดี๋ยวจะลงไปที่ชั้นล่างกับเพื่อนครับ โดยให้น้องที่เป็นพลขับเนี่ย รออยู่ที่ห้อง ทั้งคู่ก็เลยเดินออกจากห้องครับ พบว่าตอนนี้ไฟตรงทางเดิน ได้กลับมาติดตามปกติแล้ว ทั้งคู่ก็เลยเดินกันมาเรื่อยๆครับ เดินมาถึงลิฟท์แล้วก็กดลิ แต่ในตอนนั้นเองทั้งคู่ก็ต้องสะดุ้งสุดตัวครับ เพราะว่าหลังจากกดลิ ประกวดว่าลิฟท์ตัวซ้ายก็เปิดในทันที เมื่อเห็นแบบนั้นทั้งคู่ตกใจแล้วก็กลัวมากครับ ไม่รู้ว่าเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับตัวเองกันแน่ แล้วทำไมลิฟท์ตัวนี้ถึงขึ้นมาอยู่ชั้น 9 ได้ เพราะว่าอย่างที่น้องพนักงานผู้หญิงคนนั้นบอก วริชตัวนี้จะไม่ถูกใช้งานครับ ทั้งคู่ได้ติดยืนส่องเข้าไปในลิฟ ก็พบว่าไม่มีอะไรผิดปกติ แต่พอประตูลิฟท์ปิด ปรากฏว่าไฟตรงทางเดิน ก็ดับลงอีกครั้งหนึ่งครับ ตอนนั้นชั่งใจกันเลยครับ ว่าจะวิ่งลงบันไดไปที่ชั้นล่าง หรือว่าจะวิ่งกลับห้องดี แต่ในเมื่อระยะทางในการวิ่งกลับห้องมันใกล้กว่ากันเยอะครับ ทั้งคู่เลยตัดสินใจรีบวิ่งกลับไปที่ห้องตัวเอง หลังจากที่เข้ามาในห้องได้ ก็เหมือนเรื่องตลกเลยครับข่าวนี้ พอปิดประตูหน้าห้องปุ๊บ คุณโจเห็นได้ทันทีครับว่าแสงไฟตรงทางเดิน ได้ติดขึ้นมาอีกครั้ง ข้อสังเกตว่ามีแสงไฟลอดมาใต้ประตูครับ เมื่อทั้งสามคนเห็นแบบนั้นก็เริ่มใจคอไม่ดีครับคราวนี้ และคิดว่าคงจะไม่ออกจากห้องอีกแน่นอน คุณโจเลยกดโทรศัพท์ลงไปที่ชั้นล่าง หลังจากที่รอสายอยู่ ปรากฏว่า น้องผู้หญิงคนเดิมก็ได้รับโทรศัพท์ คุณจะพยายามสอบถามครับ ว่ามีพนักงานนวดกลับมาบ้างหรือยัง น้องพนักงานแจ้งว่ามีกลับมาบ้างแล้วแต่ว่ากลับมาแค่คนสองคนเท่านั้นเอง แต่คุณโจก็บอกไปนะครับ วัดหนองผู้ชายที่รับโทรศัพท์เมื่อกี้นี้บอกว่ามาเยอะแล้วนะ ผู้หญิงคนนั้นเลือกตอบกลับมาว่า ผู้ชายที่ไหนครับพี่หนูอยู่แค่คนเดียว พี่ลงมาเลือกเองได้เลย ด้วยความที่ไม่อยากออกจากห้องนะครับ คุณโจเลยบอกว่า ตรงนั้นมีพนักงานนวดอยู่กี่คน ส่งขึ้นมาที่ห้องได้เลย หลังจากที่วางสายไปไม่นาน เสียงเคาะประตูหน้าห้องก็ดังขึ้น ทุกคนเกี่ยงกันครับว่าใครจะลุกขึ้นไปดู ผมไม่แน่ใจและกลัว เจอเข้ากับอะไรอีก ตัวน้องพลขับก็เลยอาสาครับลุกขึ้นไปดู หลังจากที่แง้มประตูดูก็พบว่าเป็นผู้หญิง หญิงสูงอายุ 3 คนครับ ยืนอยู่ที่หน้าห้อง เมื่อผู้หญิง 3 คนเดินเข้ามาในห้องแล้ว ก็เลยถามกับกลุ่มคุณโจว่า ทำไมไม่ลงไปเรียกล่ะคะ ตอนนั้นคุณโจไม่รู้จะตอบยังไงครับ และมีท่าทีที่ อาการอ้วนอยู่ ไม่รู้ว่าจะพูดยังไง ตอนนั้นพนักงานเห็นแบบนั้นก็เลยพูดขึ้นมาว่า เจอแล้วหรอ เมื่อได้ยินแบบนั้นคุณโจยิ่งตกใจมากขึ้นอีกครับ เลยถามต่อว่าพี่หมายความว่ายังไงครับ ตอนนั้นด้วยความอยากรู้ครับ คุณโจเลยบอกให้ตั้ง 3 คนเนี่ยนั่งลง และเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟังหน่อย ไม่ต้องนวดแล้ว แค่อยากรู้เรื่องเท่านั้น พนักงานนวดเลยเล่าให้ฟังว่า ที่โรงแรมแห่งนี้มีเจ้าของเป็นคนอิสลามครับ เลยทำให้ตัวโรงแรมไม่มีการตั้ง พนักงานที่นี่หลายๆคนจะเจอกันบ่อยมาก เช่นที่ร้านนวดด้านล่าง ถ้าบางครั้ง ตัวพนักงานอู้งานครับ ไม่ตั้งใจทำงาน บางทีก็พบเจอคนแก่เดินไปเดินมาในร้าน แล้วก็คอยดูว่า พนักงานว่าทำไมถึงไม่ตั้งใจทำ หมอลำฝังเรื่องราวตอนนั้นทีมงานคุณโจเริ่มกลัวกันมากขึ้นครับ และคิดไม่ออกว่าคืนนี้จะนอนกันยังไง แต่พี่พนักงานนวดก็พยายามปลอบใจนะครับ ว่าอยู่ในห้องนี้คงไม่เจออะไรหรอก ออกอย่าคิดมาก แต่มีอีกข้อหนึ่งที่คุณโจค่อนข้างจะข้องใจมากๆ คือเรื่องนโยบายการประหยัดไฟนี่ล่ะ เลยถามไปว่ามันเริ่มต้นขึ้นได้ยังไงกับนโยบายนี้ พีพีพนักงานนวดเลยเล่าให้ฟังว่า นโยบายนี้เริ่มต้นเมื่อตอนเกิดเรื่องครับ ในตอนนั้นมีแขกเรียกให้พนักงานนวดคน ขึ้นไปนวดที่ห้อง หลังจากนั้นก็ได้ลงลิฟท์ตัวซ้ายมาพร้อมกันครับ แต่ไม่รู้ว่าทะเลาะเรื่องอะไรกัน จนสุดท้าย ก็ลงมือจนพนักงานนวดคนนั้นเสียชีวิตในลิฟท์ครับ พอฟังแล้วทั้งสามคนก็ยิ่งขนลุกหนักกว่าเดิมอีกครับคราวนี้ หลังจากนั้นเมื่อคุยกันได้สักพัก คุณโจก็ได้จ่ายค่านวดให้กับพนักงานทั้ง 3 คนนะครับ แล้วพนักงานกลุ่มนั้นก็ได้กลับออกจากห้องไป คุณโจเดินไปล็อคประตูครับ แล้วได้กลับมาคุยกับทีมงาน ตกลงกันว่าคืนนี้จะไม่นอนครับ กะว่าจะนั่งแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เพื่อรอให้เจ้านายตื่น แล้วก็จะได้เดินทางออกจากโรงแรมนี้สักที แต่พอนอนเล่นไปนอนเล่นมา อยู่ดีๆทั้ง 3 คนก็หลับไปตอนไหนไม่รู้ครับ เพราะหลับไปคุณโจก็ฝันครับ ฝันนั้นเหมือนจริงมากๆ ขอรายละเอียดในฝันเหมือนในตอนนี้ทุกอย่าง คือทั้ง 3 คนเนี่ยนอนอยู่ในห้องนี้เลยครับ แล้วอยู่ๆก็มีหน้าของผู้ชายคนนึง ฉันโง่ออกมาจากในห้องน้ำ เหมือนชะโงกออกมาแอบดูอ่ะครับว่าทั้ง 3 คนนี้ทำอะไรกันในห้อง ในฝันนี้คุณโจลืมตาขึ้นนะครับ แล้วมองเห็นผู้ชายคนนั้นชะโงกหน้าออกมาพอดี คุณโจก็ได้แต่นั่งสังเกตอยู่แบบนั้น ว่าผู้ชายคนนี้เป็นใครกันแน่ ถ้าอยู่ดีๆผู้ชายคนนั้นก็ได้เดินออกมาจากในห้องน้ำทันทีครับ แล้วไม่ ยืนจ้องหน้าคุณโจ ในฝันตอนนั้นรู้ได้ทันทีครับว่าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คน คุณโจกลัวมากเลยเริ่มหลับตา เริ่มสวดมนต์ ผู้ชายคนนั้นเลยเดินกลับไปที่ห้องน้ำครับ แล้วเหมือนไปหยิบไม้ตะพด แล้วเดินกลับมาอีกครั้ง ข่าวนี้ใช่ไม้ตะพดนั้นชี้หน้าครับ แล้วถามว่ามึงแน่นักหรอ ไม่ฝากคุณโจก็ยังสวดมนต์อยู่แบบนั้นเรื่อยๆครับ จดในที่สุดผู้ชายคนนั้น ก็เดินออกไปจากห้อง แต่ก่อนที่จะเดินออกไปนะครับได้ แล้วพูดว่า มึงแน่นักนะ หลังจากนั้นก็เปิดประตูแล้วก็เดินออกไปครับ คุณโจสะดุ้งตื่นทันทีครับ เมื่อสะดุ้งตื่นก็กลัวมากครับเพราะความฝันมันเหมือนจริงมากๆ คุณโจหันไปดูเพื่อนทั้งสองคน ก็เพราะว่า ด้วยความที่ฝันนี้มันเหมือนจริงมากๆครับ คุณโจตื่นขึ้นมาพร้อมกับเหงื่อที่ท่วมตัว ก็เลยลุกไปเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตาสักหน่อย แต่พอเดินออกมาจากห้องน้ำครับคุณโจก็ต้องช็อคแล้วขนลุกไปทั้งตัว พอภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าตอนนี้ก็คือประตูหน้าห้องครับ ตอนนี้ประตูหน้าห้องเปิดอ้าเหมือนในความฝันไม่มีผิดเลยครับ เมื่อเห็นแบบนั้นคุณโจรีบเก็บของแล้วก็ได้ใช้เท้าเนี่ยถีบเพื่อนและถีบน้องคนขับ ให้รีบตื่น พอถีบแล้วคุณโจไม่รอเลยครับรีบวิ่งลงบันไดไปที่ล็อบบี้ชั้นล่างในทันที หลังจากนั้นไม่นานทั้งสองคนก็วิ่งตามลงมาครับ ทั้งสามคนได้แต่นั่งอยู่แบบนั้นจนเช้า ในตอนเช้าพอเจ้านายลงมาเจ้านายก็งงนะครับ ว่าทำไมพรุ่งนี้ถึงตื่นเช้ากันจัง แต่คุณโจก็ไม่ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนให้กับเจ้านายฟังนะครับ ก่อนที่จะกลับออกมาตัวคุณโจได้บังเอิญพบกับรปภที่ดูแลที่ลานจอดรถ คุณโจเลยบ่นครับว่าที่นี่มีอะไรทำไมถึงไม่บอก ตัวรปภคนนั้นก็ตอบกลับมาว่าที่ไม่ได้บอก ก็เพราะว่าไม่คิดว่าจะเจอครับ ในประสบการณ์รอบนี้ ถือว่าคุณโจก็เจอหลายช็อตอยู่เหมือนกันนะครับ ตั้งแต่ลิฟท์ตัวซ้ายที่อยู่ๆก็เปิดขึ้นมาเอง แล้วที่สำคัญผู้หญิงคนนั้นที่ขึ้นลิฟท์มาด้วยกัน เธอคนนั้นเป็นคนหรือเปล่า หรือว่าเป็นผู้หญิงคนนั้นที่เสียชีวิตในลิฟท์ ไหนจะไฟทางเดินที่เปิดปิดเอง และเรื่องสุดท้าย คือผู้ชายคนนั้น ที่ไม่รู้ว่าตัวเองฝันไปหรือว่าตัวเองครึ่งหลับครึ่งตื่น จนเจอประสบการณ์ จริงๆก็เป็นได้ และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมดที่ผมหยิบยกมาเล่าให้ฟังในวันนี้ครับ เป็นยังไงกันบ้างครับเพื่อนๆ ผมอยากให้เพื่อนๆลองย้อนกลับไปฟังเรื่องเดิมที่ ผมเคยเล่าไว้ เกี่ยวกับโรงแรมแห่งหนึ่งที่ชุมพร แล้วลองมาฟังเรื่องนี้กันดูนะครับ เพื่อนๆคิดว่ายังไงครับ ที่นี่คือโรงแรมเดียวกันหรือเปล่า Comment บอกกันไว้หน่อยนะครับ และหากว่าเพื่อนๆคนไหนที่มีเรื่องราวประสบการณ์น่ากลัวสยองขวัญ ไม่ว่าเรื่องราวนั้นจะเป็นเรื่องราวของเพื่อนๆเอง หรือว่ารับฟังจากใครเล่าให้ฟังมา ถ้าอยากให้ผมได้นำมาถ่ายทอดให้เพื่อนๆคนอื่นได้ฟัง ส่งเรื่องราวของเพื่อนๆมาที่เมลด้านล่างได้เลยนะครับ ก่อนที่จะจากกันไปครับยังไงนะครับรบกวนเพื่อนๆ ช่วยกด Subscribe เพื่อเป็นกำลังใจให้ช่องเล็กๆช่องนี้ด้วย แล้วอย่าลืมกดกระดิ่งเพื่อรับการแจ้งเตือนเวลาคลิปใหม่โพสต์ด้วยนะครับ ขอบคุณที่ติดตามรับชมรับฟัง มาจนถึงตอนนี้ เจอกันใหม่ทริปหน้า สวัสดีครับ