ชื่อฟังดูบ้านๆ แต่ราคาไม่บ้านนะครับ

กับอสังหาฯ ที่สายตาให้ความสนใจไปที่บ้านที่มีชื่อเสียงและสวยงามมากมาย บ่อยครั้งเราก็ต้องพบเจอว่าราคาบ้านส่วนใหญ่ไม่อยู่ในเกณฑ์ที่คุ้มค่าเสมอไป เมื่อมองเข้าไปในภาพทั้งหมด ความเหมาะสมก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึง ในบทความนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับวิธีการเลือกซื้อบ้านในราคาที่เหมาะสมและคุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็นการคำนึงถึงตัวคุณเอง ความต้องการของครอบครัว และสภาพเศรษฐกิจในขณะนั้น เพื่อให้การซื้อบ้านเป็นการตัดสินใจที่ฉลาดและมีความพอเหมาะกับสภาพคุณเอง

สารบัญ

1. วางแผนก่อนเลือกซื้อบ้าน

บ้านที่เหมาะสมเพื่อคุณคืออะไร? ก่อนที่คุณจะเข้าสู่กระบวนการเลือกซื้อบ้าน ควรทำการวางแผนเพื่อกำหนดความต้องการของคุณให้ชัดเจน โดยพิจารณาถึงพื้นที่ที่คุณต้องการอยู่ จำนวนห้องนอนและห้องน้ำที่เหมาะสม รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่คุณต้องการ เช่น โรงรถ สวนหย่อม หรือสิ่งอื่น ๆ ที่มีความสำคัญสำหรับคุณและครอบครัว

2. ตรวจสอบสภาพเศรษฐกิจส่วนตัว

ก่อนการลงทุนในบ้าน ควรทำการตรวจสอบสภาพเศรษฐกิจส่วนตัวให้แน่ใจว่าคุณสามารถรองรับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการเป็นเจ้าของบ้านได้อย่างมั่นใจ เพราะการซื้อบ้านนั้นไม่ใช่เพียงแค่ค่าใช้จ่ายแรกเริ่มเท่านั้น แต่ยังมีค่าใช้จ่ายประจำตลอดชีวิตที่ต้องคำนึงถึงด้วย

3. เลือกตำแหน่งที่ตั้งที่เหมาะสม

ตำแหน่งที่ตั้งของบ้านมีผลต่อการใช้ชีวิตของคุณอย่างมาก คิดให้ดีว่าคุณต้องการใกล้ที่ทำงานหรือไม่ มีสถานที่สำคัญอื่น ๆ เช่น โรงเรียน ร้านค้า หรือสวนสาธารณะที่คุณต้องการใกล้เคียงกับบ้านหรือไม่ การเลือกตำแหน่งที่เหมาะสมจะทำให้คุณมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าในระยะยาว

4. พิจารณาแหล่งที่มาของเงินทุน

การเตรียมเงินทุนสำหรับการซื้อบ้านเป็นสิ่งสำคัญ คุณควรพิจารณาว่าเงินทุนมาจากแหล่งใด ไม่ว่าจะเป็นเงินออม การกู้ยืมจากธนาคาร หรือแหล่งที่มาอื่น ๆ การวางแผนการเงินให้ดีจะช่วยให้คุณไม่ติดสินเชื่อและมีชีวิตที่เงียบสงบมากขึ้น

5. เลือกบ้านที่มีสภาพพร้อมเข้าอยู่

เมื่อเลือกบ้านแล้ว ควรพิจารณาถึงสภาพของบ้านเองว่ามีความพร้อมเข้าอยู่หรือไม่ ตรวจสอบสภาพทั้งภายในและภายนอกของบ้าน เช่น ระบบไฟฟ้า ระบบประปา และความพร้อมในการใช้งานประจำวัน เพื่อให้คุณไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือปรับปรุงบ้านก่อนเข้าอยู่

6. คิดถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ

การเป็นเจ้าของบ้านไม่ได้หมายความว่าคุณจะเสร็จสิ้นค่าใช้จ่ายเมื่อซื้อบ้านไปแล้ว เมื่อเข้าอยู่แล้วยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าภาษีที่ดินและอาคาร ค่าส่วนกลาง ค่าบริการสาธารณูปโภค ฯลฯ ซึ่งควรนำมาพิจารณาในการวางแผนการเงินระยะยาว

สรุป

การเลือกซื้อบ้านที่เหมาะสมไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ได้ยากเกินไป คุณควรใช้เวลาในการวางแผนและศึกษาข้อมูลต่าง ๆ อย่างรอบคอบก่อนการตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความต้องการส่วนตัว สภาพเศรษฐกิจ หรือค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเมื่อเป็นเจ้าของบ้านแล้ว เพื่อให้คุณสามารถเลือกซื้อบ้านในราคาที่ไม่บ้านนะครับที่เหมาะสมและมีคุณค่าต่อการใช้ชีวิตของคุณ

คำถามที่พบบ่อย

การเลือกซื้อบ้านควรใช้เงินทุนจากแหล่งใด? คำตอบ: ควรพิจารณาว่าเงินทุนมาจากแหล่งใดที่เหมาะสมกับสถานะเศรษฐกิจส่วนตัว เช่น เงินออม หรือการกู้ยืมจากธนาคาร
การเลือกตำแหน่งที่ตั้งของบ้านมีผลอย่างไรต่อชีวิตประจำวัน? คำตอบ: ตำแหน่งที่ตั้งของบ้านมีผลต่อคุณภาพชีวิตที่ใช้งานประจำวัน เช่น การเดินทางไปทำงาน การใช้เวลาในการเดินทาง และความสะดวกสบายในการเข้าถึงสถานที่สำคัญ
ค่าใช้จ่ายที่ต้องคำนึงถึงเมื่อมีบ้านแล้วมีอะไรบ้าง? คำตอบ: ค่าใช้จ่ายที่ต้องคำนึงถึงเมื่อมีบ้านแล้ว包括 ค่าภาษีที่ดินและอาคาร ค่าส่วนกลาง ค่าบริการสาธารณูปโภค และค่าซ่อมแซมบำรุงรักษาบ้าน
วิธีการเตรียมเงินทุนสำหรับการซื้อบ้านอย่างไร? คำตอบ: ควรวางแผนการเงินให้ดีก่อนการซื้อบ้าน แยกส่วนเงินที่ต้องใช้สำหรับดาวน์พayment และใช้เงินทุนอื่น ๆ อย่างรอบคอบ เพื่อให้การเป็นเจ้าของบ้านเป็นไปได้อย่างราบรื่น
การเลือกซื้อบ้านในราคาที่เหมาะสมจะมีผลต่อชีวิตยาวนานอย่างไร? คำตอบ: การเลือกซื้อบ้านในราคาที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณมีความมั่นคงและไม่ติดสินเชื่อ เพื่อให้คุณสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว

ชื่อฟังดูบ้านๆ แต่ราคาไม่บ้านนะครับ | บ้านบ้าน วิภาวดี 20 [VIDEO]

“นี่คือโครงการบ้านที่หน้าตาดูบ้านๆ ราคาเริ่มต้น 85 ล้าน บรรยากาศชิวๆ อบอุ่นๆ และวัฒนธรรมในหมู่บ้านนี้คือเค้าอยากให้ทุกคนเป็นมิตรต่อกัน พึ่งพาอาศัยกันได้เหมือนไลฟ์สไตล์คนต่างจังหวัด เดี๋ยววันนี้พาไปดูว่าความสงบที่ซ่อนอยู่ในซอยวิภาวดี 20 มันจะเป็นยังไง

ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.baanbaan.in.th/home
หรือติดต่อ 099-393-7272

0:00 Intro
1:37 ข้อมูลโครงการ
2:05 House Types
2:29 บริเวณหน้าบ้าน
5:42 1st Floor : Living | Dining | Kitchen
8:27 1st Floor : Thai Kitchen
8:54 1st Floor : Maid
10:04 1st Floor : Storage Room | Lift
10:37 2nd Floor : Common Space
13:17 2nd Floor : Master Bedroom
15:40 3rd Floor : Family Space | Theater room
17:40 3rd Floor : Junior Master Bedroom
20:25 สรุป

FOLLOW ME
on: https://www.facebook.com/BoomTharis/
on: https://www.instagram.com/BoomTharis/
on: https://twitter.com/BoomTharis/

ติดต่อโฆษณา: [email protected]”

เนื้อหาของวิดีโอ ชื่อฟังดูบ้านๆ แต่ราคาไม่บ้านนะครับ | บ้านบ้าน วิภาวดี 20

เวลาเราจะพูดว่าสินค้า luxury เนี่ยทุกคน ของมันจะ luxury ได้นะส่วนใหญ่มันจะต้องมีอะไรบางอย่าง แสดงออก ถึงความมีมูลค่า ผมยกตัวอย่างเช่นเสื้อผ้าหรือกระเป๋า มันจะต้องมีโลโก้ ของแบรนด์ ที่มีชื่อ หรือถ้ามันเป็นแบบนาฬิกาเครื่องประดับมันก็อาจจะต้องทำจากอัญมณีหรือโล ล้ำค่าอะไร ถ้ามันเป็นรถมันก็จะต้องเป็นรถสปอร์ตหรือแบบมีดีไซน์ที่มันดูโฉบเฉี่ยว แล้วถ้าเกิดมันเป็นบ้านเนี่ย มันอาจจะต้องเป็นบ้านที่มีความยิ่งใหญ่ อลังการใหญ่โตนิดนึงถูก มันมีคนอยู่กลุ่ม พี่เขาก็มีเงินสามารถซื้อ luxury Pro แต่ว่า เขาไม่ได้อยากได้ความตะโกน ที่มันติดมากับความหรูหราพวกนี้ แต่เขาอยากได้อะไรที่มันดูเรียบง่าย Simple แล้วก็ blen in กับสภาพแวดล้อม ซึ่งบ้านหลังที่ผมอยากจะพาทุกคนมาดูวันนี้นะครับ เป็นบ้านที่ถ้าเกิดเราดูแต่ผิวเผินเนี่ย เราจะรู้สึกว่ามันเป็นบ้านที่ดูมีดีไซน์ที่ บ้านๆมากเลย แล้วก็ไม่ได้มีอะไรที่มันโดดเด้งออกมา แถมชื่อโครงการของเขาก็ชื่อว่า บ้านๆวิภาวดี 20 แต่ราคาไม่บ้านเลยนะฮะราคาของเขาขายอยู่หลังนึงประมาณซัก 85 ล้านบาท ข้างในเนี่ยจริงๆแล้วถูกคิดเรื่องของงานดีไซน์รายละเอียด สั่งไว้ ถี่ถ้วน เดี๋ยววันนี้เราจะพาไปดูกันว่าภายในบ้านของ คนที่เขาใช้ชีวิตแบบ Low Profile แต่ว่า High prof มันจะเป็นยังไง ไปชมกัน โครงการนี้มีชื่อว่าบ้านๆนะครับเป็นหมู่ หมู่บ้านเล็กๆในซอยวิภาวดี 20 หรือบางคนอาจจะรู้จักในชื่อว่าซอยหลัง ซึ่งข้างหน้าเนี่ยเป็นที่ตั้ง ของสำนักงานใหญ่ บนถนนวิภาวดีเนี่ยซอยนี้ถือเป็นย่านชุมชนที่มีบ้านพัก เป็นจำนวนมากเลย แถวนี้ก็มักจะใช้เป็นทาง ไปทะลุออกลาดพร้าว กลับรัชดา ตัวที่ดินของโครงการนี้มี มีบ้านทั้งหมด แบ่งเป็นบ้าน บ้านแฝดเนี่ยมีพื้นที่ใช้สอย ที่ดินเริ่มต้น 46 ตารางวา ขายในราคา 4 สวนบ้านเดี่ยวพื้นที่ใช้สอย 620 ตารางเมตร ที่ดินเริ่มต้น 87.5 ตารางวา แล้วก็ขายในราคาเริ่มต้นที่ 8 ศูนย์บ้านตัวอย่างเนี่ยเขาจะขายในราคารวม แต่งแล้วอยู่ที่ 95 ล้านบาทครับ เดี๋ยววันนี้พาไปดูบ้านกันครับ อันดับแรกนะครับทุกคนผมอยากให้ทุกคนดูความกว้าง ของตัวบ้านหลังนี้ก่อน นี่คือบ้านที่หน้ากว้าง 22 เมตร เว็บนะครับซึ่งถือว่าใหญ่มากเพราะว่า บ้านในหมู่บ้านจัดสรรทั่วๆไปบ้านเดี่ยวตามกฎหมายกำหนดเขาบังคับแค่ 10 เมตรเท่านั้นเอง นะครับบ้านหลังใหญ่หน่อยก็ 12 เมตร 15 เมตร แต่ 22 เมตรมันเหมือนเอาบ้านหลังเล็กๆ 2 หลังมาต่อกัน ทำให้พื้นที่หน้าบ้านตรงนี้ มันกว้างมากเราสามารถจอดรถ 6 คันแบบ เรียงกันหน้ากระดานได้โดยที่ไม่ต้องซ้อนคัน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะพิเศษแล้วสำหรับบ้านยุคใหม่นี้ คนที่เป็นดีไซเนอร์ที่ออกแบบให้ หมู่บ้านนี้คือ Space Time ซึ่ง เอาแนวคิดการออกแบบเนี่ยมาจากบ้านไทย ต่างจังหวัด ซึ่งมันมีดีไซน์ Element หลายอย่าง อันดับแรกคือ หลังคาทรงจั่ว หลังคาทรงจั่ว มันเป็นหลังคาที่เหมาะ กลับสภาพภูมิอากาศ เพราะว่ามันกันฝนแล้วก็ กันความร้อนได้ค่อนข้างดี มันจะระบายน้ำฝนได้ดีแล้วพอมันมีชายคายื่นออกมาด้านข้าง มันจะช่วยป้องกันไม่ให้ความร้อนมัน ผสมที่ตัวบ้านไม่ดี ฝ้าก็ยกได้สูง แล้วอย่างต่อมาเนี่ยที่เขาชอบใช้คือบล็อกลม นะครับที่มันจะเป็นช่องสี่เหลี่ยมเล็กๆตอนต่อกัน อันนี้คือมันเป็นบล็อกคอนกรีตที่ทำให้ลมมันสามารถผ่านช่อง พรุ่งนี้ได้มันช่วยเพิ่มการระบาย แต่เราจะเห็นสิ่งนี้บ่อยมากเลยในบ้าน ของคนไทยนะครับโดยเฉพาะอย่างยิ่งใน เราจะเห็น ดีไซน์ความเป็นมาของตัวบ้านค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นตัวฝาบ้านนะครับตัวประสาทตัวระแนงต่างๆที่เขาใส่มาในตัวบ้านเพื่อเพิ่มความวอร์ม เพิ่มความโฮมมี่ให้กับตัวบ้าน ส่วนพื้นที่ชั้นล่างตรงนี้ที่เป็นลานจอดรถนะครับ คือเดิมทีเนี่ยเวอร์ชั่น 1 ของเขาเลยนะ บ้านตรงนี้เขาจะทำเป็นใต้ถุนบ้านเว้ยทุกคน คือเป็นใต้ถุนแบบ traditional เลย ผนังเนี่ยคือไม่มีนะครับคือเป็นพื้นที่โล่งๆปลูกต้นไม้ได้ขับรถเข้าไปจอดข้างในเลี้ยงไก่ได้อะไร แต่ว่า พอมาลงกับพื้นที่จริงๆปรากฏว่าเขามองว่า อาจจะไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่เพราะว่า มันมีหลายเรื่องทั้งแบบ อาจจะยุงเยอะหรืออากาศของกรุงเทพฯมันไม่ได้สดชื่นเหมือนต่างจังหวัดอะไรแบบนี้นะครับรวมถึงที่ดินตรงนี้มัน ก็แพงด้วยถ้าจะมาทำเป็นใต้ถุนอย่างเดียว มันอาจจะไม่คุ้มนะครับเขาก็เลยปิดเป็นผนัง แต่สิ่งหนึ่งที่ผมอยากให้ทุกคนดูไปด้วยกันคือการดีไซ ที่จอด ซึ่งเขาคิดมาเยอะมากเลย ซึ่งอย่างแรกเนี่ย ถ้าเกิดเรามองไปเนี่ยเราจะรู้สึกว่า มันโล คือมันมองเห็นเพื่อนบ้านกันทั้งหมดตรงนี้เลย เพราะว่า จะให้เพื่อนบ้านรู้จัก เขาไม่ได้จะสร้างแค่บ้าน แต่เขาอยากสร้าง community ที่คนในหมู่บ้านรู้จักกัน ซึ่งมัน แอบคล้ายๆกับไลฟ์ส มีอะไรก็ ทักทายกันได้ยกของส่งข้ามรั้วกันได้ รั้วที่เขาใส่มาก็จะเป็นรั้ว โปร่งๆ แบบนี้นะครับทั้งบล็อกลมแล้วก็รั้วด้านหน้า ทำให้ลมเนี่ยมันไหลเวียนอยู่บริเวณ ที่จอดรถได้แล้วไม่รู้สึก ตรงหลังคาตรงนี้เขาก็จะมีทั้งหลังคาส่วนที่เป็นทึบๆ กับส่วนที่มันโปร่ง แสงสว่างมัน มาได้ให้มันรู้สึกว่าแบบ เปิดพื้นที่ตรงนี้ มันใช้งานได้โดยไม่ต้องเปิดไฟ ส่วนต่อมาก็จะพาเข้าไปดูในตัวบ้านบ้างครับซึ่งประตูหน้าบ้านเนี่ยเขาให้มาเป็นประตูแบบนี้เลยนะเป็นประตูไม้สัก ไปพร้อมๆกับ Digital Door lock ด้วยซึ่ง พอเข้าไปในตัวบ้านปุ๊บ มันจะมี ผมต้อนรับตรงนี้ก่อนนะเป็นพื้นที่เล็กๆที่ ถอดรองเท้าใส่รองเท้าได้ นะครับแล้วเขาใส่มาเป็น ระแนงไม้โค้งๆเนี่ยผมว่าน่ารักดี เงินเดือนหันเข้ามาด้านในก็จะเป็นส่วน ห้องโถงกลางขนาดใหญ่ ซึ่งจะเป็นพื้นที่ ของตัวบ้าน โถงตรงนี้มันจะประกอบไปด้วย 3 ฟังก์ชันมีทั้งโซฟาดูทีวีมีโต๊ะรับประทานอาหาร หานะครับแล้วก็จะมีส่วนครัวด้วย แล้วตรงกลางก็ Double vol แบบนี้สูงประมาณ 7 ให้พื้นที่ที่มันดูค่อน ในบ้านเปล่า จริงๆเขาไม่ได้ ฟังก์ชันจัดเฟอร์นิเจอร์อะไรแบบนี้มาให้ดังนั้นเนี่ย เราสามารถเลือกสัดส่วน ของพื้นที่ในแต่ละ ตามใจเราได้ เช่นเราไม่ได้อยากได้โซฟาดูทีวีใหญ่ เราก็เลือกโซฟาที่มันเล็กลงหน่อยขยับเข้าไปใส่โต๊ะกินข้าวที่มันใหญ่ขึ้นจะเปลี่ยนเป็นโต๊ะกลมก็ได้ คนที่เป็นคนออกแบบ interior บ้านหลัง เป็นเจ้าของแบรนด์เฟอร์นิเจอร์นะครับแบรนด์ชื่อว่านิก ซึ่งนิกเนี่ยเป็นแบรนด์เฟอร์นิเจอร์คนไทยนะ แล้วก็ส่วนใหญ่จะเน้นงานไม้ งานเขาจะดูวอมวอมโฮมมี่โฮมมี่หน่อย ซึ่งเจ้าของแบรนด์เขาก็ เป็นคนช่วยออกแบบ แบบ interior ให้แล้วก็ เอาเฟอร์นิเจอร์มาใส่ หลายๆส่วนของตัวบ้าน แต่ก็ไม่ใช่ทุกชิ้น นะครับเพราะว่า อย่างเช่นโคมไฟอันนี้ก็จะเป็นโคมไฟ artico ของยี่ห้อ Louis Frozen นั่นเอง ซึ่งดีไซน์ดูเป็นเอกลักษณ์มากหลายๆคนน่าจะเคย โคมไฟตัวนี้ที่ ถ้าเรามองไปด้านนอกเนี่ยเราก็จะเห็นว่าตัวบ้านนี้เขาจะใส่ น้ำมาให้ด้วยอันนี้เป็น ประมาณ 7 เมตร ใช้แฉะน้ำเล่นว่าอะไรได้นิดหน่อย แล้วด้านหลังบ้านเขา ซึ่งอยากให้สังเกตนิดนึงด้านนอกเนี่ยเขาจัดเป็นสวนกระ เขาจะมีการปูไม้ระแนงไว้ด้านนอกเพื่อให้เราสามารถเดินออกไป แบบสะดวกๆหน่อย คือถ้าสมมุติว่ามันใส่มาเป็นแบบสนามหญ้าเลยเนี่ยเราจะรู้สึกว่าเดินเราไม่อยากเดิน มันจะแบบเลอะ แต่พอทำเป็นแบบ นี่ก็รู้สึกว่าเออมันน่าใช้ ตัวสระว่ายน้ำเนี่ยมันจะมีทางเดิน จากหน้าบ้านให้ ตรงนี้ได้ด้วย เขาสามารถเดินเข้าประตูด้านหลัง แล้วก็มาตรงบริเวณโซนหลังบ้านได้เลย โดยที่ไม่ต้องรบ ผมรู้สึกว่าเขาดีไซน์ทาง พื้นที่ส่วนต่อมาก็จะเป็นพื้นที่ครัวนะครับ ซึ่งชุดครัวของเขาเนี่ย เขาจะให้มาเป็นของยี่ห้อ rcd นะครับ ก็ Custom Made มาสำหรับบ้านหลังนี้โดย เฉพาะมีเตาไฟฟ้า ที่ดูดควัน เคาน์เตอร์ Island เตรียมอาหารเตาอบมีไมโครเวฟอยู่ด้านนี้ นะครับมีชุดอุปกรณ์วัสดุ ค่อนข้างจะ แล้วก็ด้านหลังมีซิงค์ล้างจานนะครับมีพื้นที่สำหรับแบบ เป็นหน้าต่างสำหรับเปิดระบาย กะนิดนึง แล้วฝั่งนี้ก็จะเป็น ตู้เย็น นะครับซึ่งเป็นตู้เย็นแบบฝังเข้าไปใน ส่วนด้านนี้จะมีประตูที่เปิดเข้าไปยัง ครัวไทย ซึ่งพื้นที่ของครัวไทยนะครับเขาก็ให้มาค่อนข้างใหญ่ทีเดียวนะฮะใช้งานได้ค่อนข้างสะดวกมีเตาแก๊ส มีที่ดูดควันมีที่วางตู้เย็น ซิงค์ล้างจานก็ให้มาเป็นซิงค์หลุมขนาดใหญ่ แล้วก็มีพื้นที่สำหรับเปิด ระบายอากาศด้านหลังตรงนี้ด้วย นี่เปิดเสร็จปุ๊บก็สามารถแบบผัดกับข้าว ใช้พื้นที่ตรงนี้ได้ สวนหลังประตูบานนี้ครับเปิดมาจะเป็นพื้นที่ของโซนแม่บ้านนะครับ แม่บ้านของบ้านหลังนี้ก็ต้องบอกว่าชีวิตค่อนข้างดีนะเพราะว่าพื้นที่ใหญ่ ตรงนี้มีโซนโต๊ะกินข้าวกินข้าวหลังบ้านได้มีตู้เย็นเล็กๆเอาไว้แช่ของกันเองนะครับ แล้วก็พวกหน้าต่างพวกนี้เปิดระบายอากาศได้หมดเลยอยู่ได้โดยที่ไม่ต้องเปิด ฝั่งนี้จะเป็นส่วนของ ห้องน้ำห้องน้ำเหม็นมีอยู่ 1 ห้อง แชร์ร่วมกันระหว่างห้องนอน Mate 2 ห้องนะครับสมมุติว่าเรามีเม คนเดียวห้องนี้ก็ทำเป็นห้องนอน แล้วห้องที่อยู่ด้านในสุด เดินเข้ามาดูนะ จะเป็น ห้องเก็บของอเนกประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นพวกเครื่องมือช่างอุปกรณ์ที่นานๆใช้ที ถังขยะรีไซเคิลอุปกรณ์ทำความสะอาดที่ตักผง ไม้กวาดอะไรแบบนี้มันจะต้องมีพื้นที่สำหรับเก็บความไม่เรียบร้อยพวกนี้ถูก ดังนั้นเราสามารถใช้ห้องนี้เป็น บอกไปเลยได้ แล้วตรงนี้จะมี ประตูสำหรับ เปิดออกไปยังโรงจอดรถข้างหน้า นะครับซึ่ง สมมุติว่าบางทีแบบเรา Grab มา เราอยากให้แม่บ้านของเราเปิดประตูออกไปรับ เขาสามารถใช้ทางเข้า บอกตรงนี้ได้เลยโดยที่แบบมัน ไม่ต้องเดินวน ก่อนจะเดินขึ้นชั้น 2 นะครับ พามาดูฝั่งนี้นิด ตรงนี้จะเป็นเหมือน โถงลิ ก็จะมีลิฟท์กดขึ้นข้างบนได้ มีห้องน้ำ Powder room อยู่ฝั่งนี้ ตรงนี้เป็นตู้เก็บงานระบบซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรมากหรอกแค่อยากจะให้ดูว่าเขาใส่บานประตูมาดูเรียบร้อยดี ชุดประตูอันนี้ แล้วฝั่งนี้จะเป็นห้องเก็บรองเท้านะครับเก็บรองเท้าได้หลายคู่มากถ้าเกิด ชั้นวางรองเท้าเต็มๆ เก็บได้เป็นร้อยคู่เลย ใส่ใจขนาดว่าทำห้องห้องนึงไว้เป็นแบบห้อง ไปดูชั้น 2 กัน ที่ชั้น 2 นี้นะครับ ก็เขาจะมีห้องนอนอยู่ห้องเดียวเลยนะ แต่ฟังก์ชันส่วนอื่นๆของฉันเนี่ย จะเป็นเหมือนกับเป็น Common Space เป็นพื้นที่ส่วนกลางที่แชร์ร่วมกันระหว่างคนในบ้าน ซึ่งมันเป็นมันเป็นเอกลักษณ์ของบ้านหลังนี้พอสมควรเลย เดี๋ยวจะค่อยๆพาดูนะ เริ่มจากตรงนี้ก่อนที่เป็นโซนเหมือนกับโซน Family Are Family area ของหลายๆบ้าน ส่วนใหญ่จะชอบทำเป็นโซฟานั่งดูทีวีอีกชุดนึงขึ้นมาอยู่ตรงนี้ใช่ป่ะ แต่คนออกแบบเขามองว่าเอ้ยมันซ้ำซ้อนและอยากดูทีวีก็ลงไปดูข้างล่าง ตรงนี้เขาเลยปรับเป็นอีกโหมดนึงที่มันใช้งานได้แบบดูจริงจังขึ้นมาหน่อยเป็น โต๊ะทำงาน นะครับเป็นโต๊ะประชุม สามารถนั่งพร้อมกันได้ 4-5 คน แล้วก็มีตู้ชั้นวางหนังสืออยู่ด้านหลัง นี้นะครับเผื่อบางทีเนี่ยอาจจะอยากคุยงานคุยอะไรที่มันมีเรื่องสำคัญที่ต้องคุยกัน ภายในบ้านก็สามารถ แล้วก็ตรงนี้มันยังอยู่มี Connection เชื่อมต่อกันระหว่างชั้นล่างเพราะว่ามันมีแบบ ระเบียงที่มองลงไป พื้นที่ของ ส่วนฝั่งนี้จะมีอาร์มแชร์อยู่ตัวนึงที่ก็สามารถมานอนเล่น อ่านหนังสือแบบนี้ได้ แล้วก็ มีประตู เปิดออกมายังระเบียงด้านข้างแบบนี้ที่เขาวางเป็นเหมือนกับเก้าอี้หวายขนาดใหญ่ ตรงนี้ก็เป็นเหมือนกับพื้นที่มานั่งเล่นอ่านหนังสือกฎมือถืออะไรก็ว่าไป แต่ใจความสำคัญของตรงนี้ คือ ลมที่มัน Flow ระหว่างพื้นที่ตรงนี้ได้สมมุติว่าเราเปิด หน้าต่างบานนี้ออก มันจะมีลมที่ Cross เป็นกิเลส ระหว่างตัวบ้าน ทำให้เราอยู่ตรงนี้ได้โดยที่ไม่ต้องเปิดแอร์เลยใช้ลมธรรมชาติ รวมถึงไม่ต้องเปิดไฟด้วยเพราะว่าช่องแสงนี่คือแบบมหาศาลเลยนะ แล้วด้านนอกตรงนี้มันจะเป็นระเบียง เราเรียกว่าเฉลียงดีกว่าเฉลียงหน้าบ้านนะครับ คือ เวลาเรานึกถึงบ้านไทยนะเรือนไทย สมัยก่อน มันจะต้องยกสูงใช่ป่ะ แล้วมันจะมีเหมือนกับเป็นชานบ้านแบบนี้ ที่มันอยู่ก่อนที่จะเข้าไปในห้อง มันคือพื้นที่แบบนั้นแหละ นะแต่มันมาอยู่ตรงชั้น 2 มันจะเป็นระเบียงที่ได้ลมได้แสงแดด มีปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่ไว้ตรงกลางแบบนี้ทำเป็นที่นั่งเป็นม้านั่งเอาไว้ จริงๆแล้วถ้าเกิดเป็นบ้านเปล่า ตรงนี้ที่มันเป็นห้อง ฟิตเนส มันก็จะเป็นพื้นที่ส่วนของ ของชานบ้านตรงนี้ด้วยนะครับที่มันยาวต่อเนื่องกันไปเลยมี พัดลมอยู่ตัวนึงนะเปิด Chill Chill เย็นๆได้ มันมันดูเข้ากับไลฟ์สไตล์คนไทยมากๆเลยที่แบบเราอยากจะต้องการ พื้นที่ Outdoor ได้รับลมได้รับแสงบ้าง ไม่ได้อยากจะอยู่แต่ในห้องแอร์ แม้ว่าบางทีอากาศจะร้อนนั่นแหละออกมานั่งชงกาแฟอ่านหนังสือ ถ้าเป็นสมัยก่อนก็ต้องอ่านหนังสือพิมพ์อะไรแบบนี้นะครับตอนนี้ก็อาจจะนั่งเล่นแท็บเล็ตเล่นมือถือคุยโทรศัพท์อยู่ตรงบริเวณนี้ นี้มันเป็นจุดที่แบบเออดูชิวเหมาะ บ้านเมืองร้อนมากๆ ส่วนฝั่งนี้จะเป็นประตู เดินเข้าไปยังห้องนอน นะครับมีประตู จกอีกบาน ตัวห้องนอน Master เนี่ยจะเป็นห้องนอนที่ไซส์ใหญ่ที่สุดในบ้านนะครับ ข้างในก็จะมีฟังก์ชันที่ไม่ได้เอาไว้นอนอย่างเดียวมีเหมือน เหมือนกับเป็นโซนนั่งเล่น ตัวห้องด้วย แต่บางคนอาจจะงงๆหน่อยว่าทำไมเขาให้เราเปิดประตูเข้าทาง จริงๆมันมีประตูอีกบานนึง ที่สามารถเปิดเข้าห้องนอนได้เหมือน ก็คือมันมี ac ที่สามารถเข้าออกได้ทั้ง 2 ทางนั่นเอง แล้วก็มีเนี่ยมีโต๊ะทำงานเล็กๆอีกตัวนึง มีโซฟาสำหรับนั่งดูทีวีนะครับ ฝั่งนี้ก็ใส่เป็นระแนงไม้ สวยดีนะทุกคน สวนทางฝั่งนี้ก็จะเป็นโซนของเตียงนอน เตียงนอนก็จะใส่ มันเป็นเตียง 6 ฟุต มีพื้นที่วางโต๊ะ หัวเตียงสองฝั่ง มีโต๊ะเครื่องแป้ง อีกจุดหนึ่ง แล้วอยากจะให้ดูดีเทลบางอย่าง ของห้องนี้ด้วยอย่างเช่น ช่องแอร์ แอร์ของห้องนี้จะเป็นแอร์ มันจะดูเรียบร้อยดูคลีนกว่า แบบพวกที่มันเป็น Wall ที่แบบแปะอยู่ตรง เวลาเราจัดวางเฟอร์นิเจอร์มันทำให้ มิดชิดฝ้าด้านบนได้เลย แล้วก็อย่างฝั่งนี้จะเป็น Walk in ซึ่งด้านบนเนี่ยก็จะมี ช่อง ช่องแสงตรงนี้เขาเจาะเอาไว้เพื่อให้ตอนกลางวันเนี่ยเราสามารถมาเดินแต่งตัวตรงนี้ได้ โดยที่ไม่ต้องเปิดไฟเลย เพราะว่ามันสว่างเพียง ส่วนตรงนี้ก็จะเป็นทางเดินเข้ามายังห้องน้ำมาสเตอร์ นะครับซึ่ง ฟังก์ชั่นภายในห้องน้ำก็จะมีโถสุขภัณฑ์นะครับเป็นแบบอัตโนมัติของยี่ห้อ TOTO มี shower Box อยู่ฝั่งนี้แยกส่วนกัน มีอ่างล้างหน้าแบบ his and her นะครับมีกระจกที่แบบมีไฟ แต่งหน้าง่ายๆ ตู้เก็บของวางอยู่ด้านล่างแล้วก็จะมีนี่ครับ มีอ่างอาบน้ำ his and her ด้วยสามารถลงไปแช่ จากุซซี่พร้อมๆกันได้ สังเกตถึงการวางช่องแสงด้วยว่าแบบเออห้องน้ำห้องนี้มันสว่างมากเลย แล้วก็ผมรู้สึกว่า ผมชอบ Element ความเป็นไม้ของ คือเนี่ยตู้เก็บของ Dashboard ด้านหลังกระจก ผนังตรงนี้จริงๆอันนี้มันเป็น กระเบื้องลาย แต่เขาทำให้มันดู แล้วก็เนี่ย ใช้มู่ลี่ให้มันเป็นมู่ลี่ไม้ ดูแล้วรู้สึกว่า ภาพรวมมันดูวอร์ม หลายๆห้องน้ำอ่ะมันจะใช้เป็นหิน โล ซึ่งมันก็จะดูแบบมีความ แข็งขึ้นมามีความหรูขึ้นมา แต่ว่าอันนี้พอมันใช้แบบนี้มันดูโฮมมี่ดูแบบดูชิวพูดไม่ถูก ขึ้นมาที่ชั้น 3 ครับ ชั้นนี้นะก็จะเป็นห้องนอนอีก 3 ห้องทุกคนแล้วก็ตรงกลางเนี่ยจะเป็นเหมือนกับ Family Space ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นหัวใจของบ้านหลังนี้เลย อยากจะพาดูก่อนว่าตรงนี้มันมีอะไรบ้างเริ่มจากตรงนี้เป็นมุมชงกาแฟของคุณพ่อ มีทำเป็นแผนที่ด้านหลังต่อระบบน้ำขึ้นมาอยู่ตรงนี้เลยนะจริงจังมาก อุปกรณ์ดริปกาแฟเพียบ เครื่องหายจานชามแก้วน้ำอะไรต่างๆที่เขาเลือกมาเป็นพร็อพนี่คือน่ารักมากเลยหลาย App ที่กลับบ้านมากๆ ส่วนฝั่งนี้จะมีเปียโนวางอยู่ตัวนึงสำหรับคุณลูกสาวมาซ้อมเล่นอยู่ตรงนี้ มีพื้นที่แบบเป็นพื้นที่นั่งแบบ กับพื้นอ่ะคือเขาปูเสื่อตรงนี้ จัดวางบิล Bag เก้าอี้เล็กๆน้อยๆมาให้แบบคุณปู่คุณย่านั่งให้กำลังใจลูกสาว ที่กำลังซ้อมเปียโนอยู่ ส่วนฝั่งนี้ จะมีห้องกระจกที่เขากั้นเข้ามุมเอาไว้ แล้วก็ทำเป็นเหมือน Theater room เล็กๆ นะครับมีโซฟาวางอยู่ตัวนึงติดทีวีขนาดใหญ่ เผื่อว่าเราจะใส่ระบบเครื่องเสียงเข้าไปใส่เกม playstation หรือบางคนจะมีแบบเก้าอี้สำหรับขับรถ Red Simulator ก็สามารถใช้พื้นที่ตรงนี้ได้ จะสังเกตนิดนึงว่าเขาจะเจาะตัวฝ้าขึ้นไปให้มัน รับกับจั่วด้านบน ทำให้เป็น เป็นฝ้าตกแต่ง ทำเป็นเหมือน Acoustic panel ข้างบนได้ แล้วติดกันด้านข้าง จะมีห้องสปาอยู่ สำหรับคุณแม่ ที่ใช้แบบทำทรีทเม้นท์ที่ผมพูดทั้งหมดนี้คืออยากจะให้ทุกคนเห็นว่า สมาชิก Family แต่ละคนจะมีพื้นที่ที่จะทำกิจกรรมที่ตัวเองชอบ แต่ว่าสามารถอยู่ใน Space ชั้นเดียวกันตรงนี้ได้หมด เพราะว่านี่แหละคือหัวใจที่แท้จริง ของคำว่า Family R นะครับเพราะว่า มันคือพื้นที่ที่เราถูก Force ให้ เราต้องอยู่ด้วยกัน หลายๆบ้านอ่ะไอ้ฟังชั่นพวกนี้มันจะกระจายไปอยู่ตามจุดต่างๆของ ซึ่งมันก็ไม่ได้ผิดอะไรหรอก แต่ว่า พอมันไปเป็นแบบนี้ทุกคนมันถูกบังคับให้อยู่ที่เดียวกัน มันก็เลยเกิดปฏิสัมพันธ์เกิดการ mingle ซึ่งผมรู้สึกว่าอันนี้มันเป็นมันเป็นหนึ่งในคาแรคเตอร์ที่สำคัญ คันของบ้านหลัง ส่วนฝั่งนี้จะมีห้องนอนอยู่ 2 ห้องเป็นห้องนอนเล็กทั้งคู่พาเข้ามาดูข้างใน ห้องนี้จัดออกมาน่ารักมากเลยนะครับ เป็นเตียงวางอยู่แบบนี้แล้วก็ถูกยกพื้นขึ้นมาหน่อย ด้านล่างตรงนี้มีลิ้น ของใต้เตียงได้ ด้านข้างเป็นตู้เสื้อผ้า มีโซฟานั่งอยู่ปลายเตียงแล้วก็มีโต๊ะทำงานอยู่ด้านข้างแบบนี้ ส่วนฝั่งนี้จะเป็นห้องน้ำ ซึ่งห้องน้ำเนี่ยจะแชร์ใช้ร่วมกันระหว่างห้องนอน เล็กทั้ง 2 ห้องนี้มีประตู เปิดเข้า 2 บาน ล้างหน้าอยู่ตรงกลางแบบนี้นะครับแล้วฝั่งนี้จะเป็น Shower โถสุขภัณฑ์แบบนี้ แล้วก็ด้านบนเนี่ยจะเห็นว่าเขาใส่เป็นหน้าต่าง สำหรับเปิด ระบายอากาศ ผ่านมาด้วยนะครับเพราะว่าฝ้าของตัวห้องน้ำเนี่ย มันค่อนข้างสูงเลยแล้วมันทำให้ใส่หน้าต่างได้บานใหญ่หน่อยเปิดระบายอากาศตอนกลางวันแล้วก็ได้แสงธรรมชาติ แต่ไอเดียก็คือ ห้องนี้มันเป็นห้องน้ำที่ถูกดีไซน์มาให้ใช้พร้อมกันได้ คือเนี่ยเค้าติดมาเป็นกระจกฝ้าใช่ป่ะ ทำให้เวลามีคนใช้งานอยู่ฝั่งนี้คนนึงอีกคนนึงก็สามารถมายืนแต่งตัวแปรงฟันทาครีมอยู่ฝั่งนี้ได้ นะครับโดยที่มันไม่ต้อง คือมันก็ต้องสนิทกันนิดนึงอ่ะนึกออก แล้วก็ด้านนี้จะเป็นส่วนของห้องนอนบ้างนะครับก็ไม่ได้มีอะไรมากมี ส่วนของเตียงนอนมีตู้เสื้อผ้า แล้วก็ฝั่งนี้จะเป็น เป็นโต๊ะทำงานที่ชิดผน คอมไว้ด้านนี้ได้ แล้วก็จะอยู่ติดกับ ทั้งสองด้านเลย ไอเดียอย่างหนึ่งของบ้านหลังนี้ที่มันที่มันชัดเจนมาในทุกๆชั้น นะครับคือเรื่องของ เนี่ยฝั่งนี้ก็จะมีช่องแสงที่เจาะจากเพดานลงมา แล้วด้านนี้ก็จะมี เข้ามาทั้งสองด้านเลยนะครับทำให้รู้สึกว่า เวลาเรามาเดินใช้งานอยู่ เราแทบจะไม่ต้องเปิดไฟหรือเปิดแอร์เลยอ่ะ แล้วฝั่งนี้ก็จะมีห้องนอนอีกห้องนึงนะครับที่ห้องนี้เขาทำเป็นเหมือนกับ เป็น Space ที่ใช้งาน 2 คนอยู่ในห้องเดียวกัน อาจจะเป็นลูกสองคนก็ได้ หรืออาจจะเป็น อากงอาม่าอยู่ด้วยกันในห้องนี้ก็ได้ นะครับอากงอาม่าขึ้นมาอยู่ชั้น 3 ได้ไหมได้เพราะว่า บ้านหลัง ใส่ลิปมาให้แล้ว จะขึ้นวีลแชร์มาก็ แล้วก็ วางเตียงเป็นเตียงเดี่ยว 2 อันเอาไว้ มีตู้เก็บของด้านข้างแบบนี้ ศูนย์วัดอินคอนเสิร์ตก็จะมาอยู่ทางฝั่งนี้แทนก่อนทางเดินเข้าห้องน้ำอยากจะให้ดูดีไซน์ ของ walk in closet นิดนึงว่า เขาไม่ได้ใส่ หน้าบานของตู้เสื้อผ้ามานะครับแต่เขาใช้เป็น บานประตู แบบนี้ ที่ ความไม่เรียบร้อยของตัว ห้องห้องเก็บเสื้อผ้าไปเลย นะครับ ดูแล้วมันก็ดูแบบ casual ดีดูแบบโฮมมี่ดีนะ เป็นไอเดียที่บาง จบแต่เพียงเท่านี้ สำหรับฟังก์ชันทั้งหมด เอาจริงนะคะทุกคน ที่นี่นี่ผมต้องบอกว่ามันชิวมากเลยว่ะ คือตัวโครงการนี้มันเหมือนกับ เราหลีกหนีความวุ่นวาย ไอ้ตรงนี้ที่ว่าเนี่ยมันคือวิภาวดี 20 มันไม่ได้ไกลจากตัวเมืองเลยนะ ถ้าเกิดใครที่เป็นคนพื้นที่จะรู้ดีว่าทำเล แถวนี้มันสะดวก มันไปลาดพร้าว รัชดาได้ ตรงนี้มันเป็นเหมือน แหล่งชุมชนอยู่อาศัยกันมาดั้งเดิม ใครที่เขาอยู่แถวๆนี้เขาก็อยากจะอยู่ทำเลตรงนี้ต่อ แล้วก็ตอนนี้มันเจริญขึ้นมากแล้ว เจริญถึงขั้นที่ว่าราคาที่ดินตรงนี้มันไปไกลระดับที่แบบ เขาต้องไปสร้างคอนโดขายกันและคือถ้าเกิดมาสร้างเป็นบ้าน มันก็ต้องขายในราคา หลายสิบล้านแบบที่เห็น เราต้องมาคุยกันมากกว่าว่า คาแรคเตอร์ของคนที่จะมาอยู่ บ้านหลัง มันเป็นคนแบบไหน ตัวบ้าน เขาปลูก เต็มพื้นที่เลย ไม่ได้เน้นพื้นที่รอบบ้านแต่เน้นพื้นที่ใช้สอย ให้มาระดับ 600 กว่าตารางเมตร นะครับบนที่ดิน หวาซึ่งก็ถือว่าเยอะมาก แล้วก็ฟังก์ชันเยอะ จอดรถได้หลายคันมีจำนวนห้องเพียงพอสำหรับรองรับสมาชิกเยอะๆอยู่กันเป็นแบบ หลายเจนเนอเรชั่นอยู่กันจนลูกโตได้เลย แต่ว่า คนที่จะซื้อบ้านที่นี่ ผมรู้สึกว่ามันเป็นเหมือน ที่ผมเกริ่นไว้ตั้งแต่ช่วง Intro เลยว่า เขาไม่ได้เป็นคนที่ ชอบความ อลังการไม่ได้อยากได้ความเวอร์อ่ะ ไม่ได้อยากได้อะไรที่มันดูตะโกนที่มันมาพร้อมกับความหรูหรา แต่อยากได้อะไรที่มันดูเรียบง่าย Ben กลมกล คนที่จะยอม เงินระดับ เกือบๆจะร้อยล้านเพื่อที่จะซื้อที่นี่ ผมว่า มันไม่ใช่ใครก็ได้ มันจะต้องเป็นคนที่ มีประสบการณ์ชีวิตมาแล้วระดับหนึ่ง ผ่านอะไรมาแล้วระดับนึง settle Down แล้วระดับนึงเริ่มรู้จักตัวเองแล้วว่าต้องการ บ้าน ที่น่าจะอยู่แบบ ไม่ได้จะซื้อบ้านเพื่อที่จะแชร์ที่สไตล์คนอื่นหรือไปโอ้อวดคนอื่น แต่ซื้อเพราะมันมาจากความ ฉันก็ต้องบอกด้วยว่า ไอ้ราคาที่กำลังจะจ่าย ประมาณเกือบๆจะครึ่งนึง มันน่าจะเป็นเรื่องของ เกาะสาเหตุที่เขาใช้ชื่อโครงการว่าบ้านๆ เพราะเขาอยากได้คนที่จะมาอยู่แบบบ้านๆ จบแต่เพียงเท่านี้ ไปที่ไหนต้องโปรดติดตามใน Channel สวัสดีครับ