เมื่อคุณคิดถึงบ้านไม้มือสอง คุณอาจจะนึกถึงความเป็นเอกลักษณ์และความอบอุ่นของบ้านที่เก่าแก่ ที่นำคุณกลับสู่สมัยเด็กเล็กเมื่อตอนที่คุณเคยเล่นอยู่ในบ้านของคุณปู่ย่า บทความนี้จะพาคุณไปรับรู้ถึงเสน่ห์ของบ้านไม้มือสอง ทั้งจากมุมมองของการออกแบบที่เฉพาะเจาะจง การปรับแต่งแบบไม้มือสองให้เข้ากับสมัยใหม่ และวิถีชีวิตที่เกิดขึ้นรอบ ๆ บ้านที่ตั้งอยู่ในอำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งได้กลายเป็นที่นิยมและเป้าหมายของคนรุ่นใหม่ที่ใฝ่ฝันอยากมีส่วนตัดสินใจในการออกแบบบ้านของตนเอง
1. การกลับมาสู่ความเป็นมาตรฐานของบ้านเก่า
บ้านไม้มือสองเป็นการกลับมาสู่ความเป็นมาตรฐานของบ้านเก่า โดยเน้นความเรียบง่ายและความคงที่ที่สร้างความอบอุ่นให้กับบ้าน ส่วนใหญ่เป็นบ้านที่ใช้วัสดุธรรมชาติอย่างไม้และเหล็กในการสร้างขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้บ้านมีความทนทานและสามารถใช้งานได้ยาวนาน
2. การปรับแต่งแบบไม้มือสองให้เข้ากับสมัยใหม่
ถึงแม้บ้านไม้มือสองจะมีความเป็นเอกลักษณ์ในตัวเอง แต่ก็สามารถปรับแต่งและปรับสีให้เข้ากับสมัยใหม่ได้ การเพิ่มเติมเฉดสีสันสดใสและการใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ทันสมัยสามารถทำให้บ้านไม้ดูทันสมัยและเป็นส่วนที่ไม่แสดงอาการความเก่าแก่มากนัก
3. วิถีชีวิตในบ้านไม้มือสอง
การอาศัยอยู่ในบ้านไม้มือสองส่งมอบความเงียบสงบและสันติภาพในชีวิตประจำวัน การใช้วัสดุธรรมชาติในการสร้างบ้านทำให้สามารถรับลมพัดและความเย็นจากต่าง ๆ มาได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังสามารถออกแบบพื้นที่ให้เป็นสวนหรือพื้นที่ในการปลูกผักสวนครัวเล็ก ๆ ไว้ในบ้านได้ เพื่อความอุดมสมบูรณ์และการใช้ชีวิตที่เข้มข้นกับธรรมชาติ
4. ความเห็นของคนรุ่นใหม่ที่ใฝ่ฝันเกี่ยวกับบ้านไม้มือสอง
สำหรับคนรุ่นใหม่ที่ใฝ่ฝันเกี่ยวกับบ้านไม้มือสอง ความเป็นเอกลักษณ์และความเรียบง่ายของบ้านนี้กลายเป็นเรื่องที่น่าตื่นตาตื่นใจ มีผู้คนที่ตัดสินใจที่จะสร้างบ้านไม้มือสองเพื่อค้นหาความเป็นตัวตนของตนเอง และมีส่วนร่วมในกระบวนการออกแบบทุกขั้นตอน เพื่อให้ได้บ้านที่สะท้อนความฝันและวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง
5. บทสรุป
บ้านไม้มือสองจากบ้านเก่าอำเภอดำเนินสะดวกเป็นภูมิปัญญาที่กำลังจะหายไปในโลกของเรา แต่ความเป็นเอกลักษณ์และความอบอุ่นของมันยังคงอยู่เป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการมีส่วนร่วมในการสร้างบ้านของความฝันของตนเอง
FAQs
Q1: บ้านไม้มือสองคืออะไร? A: บ้านไม้มือสองคือบ้านที่สร้างขึ้นจากวัสดุธรรมชาติอย่างไม้และเหล็ก มีความเป็นเอกลักษณ์และเรียบง่าย มักถูกนำมาปรับแต่งให้เข้ากับสมัยใหม่ได้
Q2: การอาศัยอยู่ในบ้านไม้มือสองมีข้อดีอะไรบ้าง? A: การอาศัยอยู่ในบ้านไม้มือสองช่วยสร้างความเงียบสงบและสันติภาพ และสามารถรับลมพัดและความเย็นจากภายนอกได้เป็นอย่างดี
Q3: สามารถปรับแต่งบ้านไม้มือสองได้ไหม? A: ได้ คุณสามารถปรับแต่งบ้านไม้มือสองให้เข้ากับสมัยใหม่ได้โดยการเพิ่มเติมเฉดสีสันสดใสและใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ทันสมัย
Q4: สิ่งที่ทำให้บ้านไม้มือสองมีความเป็นเอกลักษณ์คืออะไร? A: บ้านไม้มือสองมีความเป็นเอกลักษณ์ในการใช้วัสดุธรรมชาติอย่างไม้และเหล็กในการสร้างขึ้น มีความคงที่และอบอุ่น
Q5: ใครควรสนใจที่จะสร้างบ้านไม้มือสอง? A: คนที่ใฝ่ฝันอยากมีส่วนร่วมในกระบวนการออกแบบบ้านของตนเองและต้องการความเป็นเอกลักษณ์และความอบอุ่นในบ้านควรสนใจในการสร้างบ้านไม้มือสอง
บ้านไม้มือสอง จากบ้านเก่าอำเภอดำเนินสะดวก | 108 เรื่องหลอน PODCAST EP.157 [VIDEO]
“———————————————————
Credit & Special Thanks
เจ้าของเรื่อง : คุณอิง
แหล่งที่มา : สมาชิกเพจ 108 เรื่องหลอน
———————————————————
ติดต่อพวกเราได้ที่
Facebook Fanpage :
https://www.facebook.com/108horror.bkk
———————————————————
สงวนลิขสิทธิ์ Copyright ©All Right Reserved
———————————————————
#เล่าเรื่องผี #เรื่องหลอน #108เรื่องหลอน”
เนื้อหาของวิดีโอ บ้านไม้มือสอง จากบ้านเก่าอำเภอดำเนินสะดวก | 108 เรื่องหลอน PODCAST EP.157
เรื่องราวในวันนี้ครับมันเป็นเรื่องของบ้านไม้ทรงไทยโบราณมือสองหลังนึง เจ้าของบ้านคนเก่าเนี่ย เขาจากโลกใบนี้ไปแบบไม่มีวันหวนกลับ หลังจากนั้นครับ บ้านหลังนี้เนี่ยก็ถูกขายทอดตลาด เขาก็ซื้อบ้านหลังนี้ ตัวที่ตัวเขาเองเนี่ยไม่รู้เลย บ้านหลังนี้มันมีอะไร ผิดธรรมชาติ เรื่องในวันนี้ครับคุณผู้ฟังเป็นเรื่องราว ของคุณอิง เรื่องที่คุณอิงเล่าให้ผมฟังเนี่ย มันเกิดขึ้นในตอนที่คุณปู่ของคุณอิง ซื้อบ้านไม้หลังเก่าหลังนึง เพื่อที่จะเอามาสร้างอยู่ริมแม่น้ำใน ของบ้านตัวเอง ซึ่งในบ้านไม้หลังนี้ครับ ในตอนแรกเนี่ยมันก็ดูเหมือนกับว่ามันเป็นบ้านเก่าปกติ ตี่ทั่วไป ยิ่งอยู่ไปนานเท่านานเข้า สิ่งแปลกๆมันก็เกิดขึ้นจากบ้านไม้หลังนั้น คนทุกคนในบ้านเนี่ย ขวัญผวาไปตามๆกัน จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ครับ ก็คืออย่างที่บอกไปเลย คุณปู่ของคุณอิงซื้อต่อญาติ ของเพื่อนเขาใหม่ เนื่องจากว่าญาติของเพื่อนคุณปู่ครับ เขาจะขายที่ดินเก่า ภายในที่ดินผืนนั้นเนี่ยมันก็มีบ้านไม้เรือนไทยโบราณอยู่หลังนึง ขึ้นบ้านไม้หลังนี้ครับ มันเป็นไม้ และเห็นเขาว่ากันว่ามันเป็น สักพม่า ยิ่ง จากพม่าแล้วก็เป็นไม้สักเก่า ทำให้ราคาของไม้เนี่ยมันสูง สมควร ในตอนที่เจ้าของเขาจะ ขายที่ครับ บ้านไม้หลังนี้มัน เป็นส่วนที่ต่อเติมขึ้นมาคือไม่ได้จดทะเบียนเป็นสิ่งปลูกสร้างในบ้านนะครับ ไปกลับบ้านน็อคดาวน์ในสมัยใหม่ แล้วพอเจ้าของเขาจะขายที่ดิน บ้านไม้หลังนี้เจ้าของเขาก็เลยจำเป็นจะต้องขาย ขายทิ้งด้วย ในบ้านหลังนี้เนี่ยมันดันไปต้องตาต้องใจคุณปู่ของคุณเอง ทำให้คุณปู่ของคุณเองซื้อบ้านหลังนี้ เพื่อที่จะเอามาปลูกอยู่ริมน้ำ ในเขตบ้านของคุณอิง ซึ่งคำว่าเขตบ้านของคุณอิงครับคุณผู้ฟัง ขึ้นในพื้นที่ของบ้านคุณอิงเนี่ย มันเป็นที่ดินรวมครับ ในเขตพื้นที่ครับจะมีญาติพี่น้องหลายๆบ้านอยู่รวมกันทั้งหมด 4 บ้าน แล้วบ้านทุกหลัง ก็จะอยู่ในรั้วเดียวกัน คุณปู่ของคุณอิงเอาบ้านไม้หลังนั้นมาตั้งอยู่ริมน้ำ กะจะเอาไว้ใช้ในการพักผ่อน แล้วก็เอาไว้ใช้รับแขก ในสมัยนี้อาจจะยังเห็นได้เยอะครับคุณผู้ฟังก็คือในพื้นที่ที่ดินเดียวกันเนี่ย ภายในรั้วของที่ดินนั้นเราจะเห็นบ้านหลายหลัง ปกติแล้วที่ดินแบบนั้นเขาจะเป็นที่ดินมรดกนะครับ ก็คือรุ่นของคุณปู่คุณทวดเนี่ย เอาแบ่งที่ดินให้เท่าๆกัน เป็นที่ดินมรดกที่ส่งต่อกันมาจากรุ่น สู่รุ่นอะไรทำนองนั้น แล้วบ้านไม้หลังนี้ที่คุณปู่ของคุณอิงซื้อครับ มันก็ไม่ได้หลังใหญ่อะไรมากมาย ก็ถามคุณอิงเนี่ยคุณอิงเขาบอกว่ามันคล้ายกับ กุฏิพระในวัด คือถ้าหากขึ้นไปชั้นบนมันจะมีห้องแยกอีก 2 ห้องที่มันไม่ใหญ่มากนัก และส่วนพื้นที่ระเบียงด้านหน้ากับโถงกลางบ้าน มันก็จะมีพื้นที่มากพอให้นั่งล้อมวงได้ประมาณ 2 วงใหญ่ๆ เหมาะสำหรับเป็นพื้นที่ สังสรรค์มากๆ ในตอนที่คุณปู่ไปดูบ้านไม้หลังนี้ก่อนที่จะซื้อครับ ครัวคุณหญิงเองนี่แหละครับที่ไปเป็นเพื่อนคุณปู่ เพราะว่าคุณอิงเป็นคนขับรถให้คุณปู่ และนี่ตอนที่มาถึงบ้านไม้หลังนี้ครับ คุณอิงเขาบอกว่าตัวเขาเองเนี่ยเป็นคนรุ่นใหม่ คุณเองเขาเลยไม่ค่อยอินกับพวกงานไม้อะไรแบบนี้เท่าไหร่ ซึ่งต่างกับคุณปู่ของคุณ English หรือว่าคุณปู่เขาบอกว่าไม้เนี่ย สวยมาก เนื้อไม้มันแห้งสนิท แล้วก็เป็นเนื้อไม้เก่าที่มันมีราคาสูง คุณอิงในตอนนั้นเขาก็ดูไม่เป็นหรอกนะครับก็คือเออออห่อหมกไปกับคุณปู่ และความรู้สึกแรกของคุณอิงหลังจากที่คุณปู่ตัดสินใจซื้อบ้านไม้หลังนี้ คุณยังจำได้ดีครับ ตอนที่คุณปู่พูดว่า กูจะซื้อ คุณเองนี่ขนลุกเกรียวเลย คือมันเหมือนกับมีอะไรเย็นๆพัดผ่านต้นคอคุณเอง คุณเองในตอนนั้นก็ไม่รู้นะครับว่ามันเป็นเพราะอะไร รู้สึกแค่ว่ามันแปลกมากๆ หลังจากที่คุณปู่ตกลงซื้อบ้านหลังนี้กับเจ้า ของบ้านครับ ซึ่งการเอาบ้านไม้หลังนี้กลับมาที่บ้านเนี่ยมันก็จะวุ่นวายมากๆ รั้วบ้านมันเป็นบ้านไม้ แล้วก็ต้องจ้างช่างมารื้อออกก่อน แล้วก็เอามาประกอบ ใหม่ที่ริมน้ำของบ้านคุณอิง บ้านไม้หลังนี้ครับมันใหญ่เกินกว่าที่จะบรรทุกมาทั้งหลัง หลังจากที่เอาชิ้นส่วน ลูกชิ้นมากองกันที่ริมน้ำข้างบ้านคุณอิงแล้ว ช่างเขาก็นัดวันเริ่มงานก่อสร้างกับคุณปู่ ในตอนนั้นคุณเองก็เห็นช่างเขาถามคุณปู่นะครับ ว่าคุณปู่จะดูฤกษ์ก่อสร้างไหม คือมันเหมือน เป็นการดูฤกษ์สร้างบ้านใหม่ครับ เขาเรียกว่าเลิก เสาโทอะไรทำนองนั้น ปุ๋ยช่างเขาให้เหตุผลว่าการประกอบบ้านใหม่เนี่ย มันเหมือนกับเป็นการสร้างบ้านใหม่เลย เอาปู่ได้ยินช่างแนะนำแบบนั้นปู่แกก็ไม่ได้สนใจครับ อู่บอกช่างไปในทันทีว่าให้ทำตามแบบได้เลย ไม่ต้องดูฤกษ์ยามอะไรทั้งนั้น เพราะว่ามันเป็นแค่บ้านไม้หลังเล็กๆ ไม่ใช่การก่อสร้างขนาดใหญ่ และหลังจากที่คุณปู่พูดจบครับ อยู่ๆมันก็มี แผ่นไม้แผ่นนึงตกลงมาจาก ที่กรองไม้ทั้งหมด มันตกลงมาร่วงต่อหน้าต่อตาคุณปู่แล้วก็คุณอิง หมายถึงอย่างนั้นก็เถอะครับ คุณปู่ของคุณเองเขาก็ไม่ได้ สนใจอะไร อ่านให้ช่างเริ่มงานทันทีที่ช่างพร้อม ตัวที่ปลูกเองก็ไม่ได้สนคำ ช่างเลยสักนิด ในระหว่างที่ช่างเริ่มประกอบบ้านครับ มันก็มีเหตุการณ์แปลกๆต่างๆนานาเกิดขึ้น คุณอิงเองเขาก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะครับว่ามันจะเกี่ยวกันไหม เพราะว่าตอนนี้ช่างกำลังประกอบบ้านอยู่ วันดีคืนดีเครื่องมือของช่างก็เสียกลางทาง ดูเหมือนกับใช้สว่านอยู่ อยู่ๆดอกสว่านก็หัก แล้วมอเตอร์ของสว ก็ช็อตไปเลย ทำงานต่อไม่ได้ หรือไม่ก็อยู่ๆช่างเองก็ป่วยกะทันหัน นอกจากนั้นเนี่ยมันก็มีอุบัติเหตุเล็กๆน้อยๆเกิดขึ้นระหว่างทำเป็น ประจำเลย ทั้งหมดนี้เนี่ยมันทำให้งานเสร็จล่าช้า เหมือนกับว่ามันมี คนท้ายที่สุดบ้านหลังนี้ก็ ประกอบเสร็จ และบรรยากาศ อากาศภายในบ้านมันก็ดีนะครับคือมันเย็นๆ ส่วนตัวคุณเองเขาบอกว่ามันเย็น ดูมันเย็นแบบหวิวๆอย่างยะเยือก แล้วมันก็ชื้นๆ โดยที่คุณอิงเขาก็ไม่รู้เหมือนกันครับ ว่ามันเป็นเพราะว่าผนังบ้านมันเป็นไม้ด้วยหรือเปล่า หรือคุณเองไม่เคยอยู่บ้านประเภทนี้ คุณเองเลยรู้สึกแปลกใจ หลังจากนั้นไม่นานครับ เรื่องที่มันยืนยันความแปลก ของบ้านหลังนี้ก็เกิดขึ้น คือมันมีอยู่วันนึงครับ เพื่อนของคุณอิงแวะ ของฝากมาฝากที่บ้าน คือเพื่อนคนนี้เขาไปต่างจังหวัดกลับมาครับแล้ว ก็ผ่านหน้าบ้านคุณอิง ปืนเขาก็เลยซื้อ ของฝากมาฝาก แต่ในวันที่เพื่อนมาตอนนั้นเนี่ย บังเอิญคุณอิงไปซื้อของที่ตลาดพอดี และด้วยความที่เพื่อนคนนี้เขาเป็นเพื่อนสนิทของ คุณอิงคุณอิงก็เลยบอกให้เพื่อนเข้าไปรอในบ้านก่อนได้เลย แต่ว่าตอนนี้เนี่ยคุณหญิงกำลังกลับบ้านแล้ว แต่ในตอนที่คุณอิงกลับ มาจากตลาดครับ ปรากฏว่าคุณอิงเห็นเพื่อนลงมาจากบ้านไม้ทรงไทยของคุณปู่ ในตอนที่คุณอิงเห็นเพื่อนเดินลงมาจากบ้านไม้คุณอิงเองก็ไม่ได้แปลกใจหรอกนะครับ คิดว่าเพื่อนเนี่ยน่าจะขึ้นไปเดินเล่น แต่พอมองดีๆแล้วคุณหญิงเห็นสีหน้าเพื่อน คุณหนิงก็เลยถามเพื่อนกลับไป อิงถามเพื่อนไปว่าทำไมมึงทำหน้าแบบนั้นวะ แล้วพอเพื่อนได้ยินคำถามของคุณเองครับ เพื่อนเขาก็ตอบกลับมา เมื่อกี้เนี่ยกูเห็นผู้หญิงคนนึงเดินอยู่บนบ้าน กูเองก็นึกว่าเป็นแม่มึง กูเลยเดินขึ้นไปตั้งใจจะไปสวัสดี แต่พอเดินขึ้นไปแล้ว บ้านกลับไม่มีคนอยู่ ในตอนนั้นคุณอิงพอได้ยินแบบนั้นแล้วก็ตาโตเลยครับ แม่ของคุณอิงจะไปอยู่บนนั้นได้ยังไง ในเมื่อแม่ไปตลาด กับคุณอิง แล้วก็กลับมาพร้อมกับคุณอิงเนี่ยแหละ คุณหญิงก็เลยบอกเพื่อนไปครับ ว่าตัวมึงเนี่ยตาฝาดแล้ว แล้วเพื่อนเราก็ยืนยันนะครับว่าเขาเห็นจริงๆ เห็นเป็นผู้หญิงคนนึงเดินอยู่บนระเบียงบ้าน ตอนนั้นคุณอิงกับเพื่อนหาคำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่ได้ครับ ก็เลยปักตกไป คิดว่าเพื่อนเนี่ยน่าจะตาฝาด หรือว่ามันหาเหตุผลไม่ได้จริงๆ หลังจากนั้นเรื่องราวที่คุณอิงคิดว่ามันเป็นเรื่องยืนยันความหลอนของบ้านหลังนี้มันก็เกิดขึ้นครับ อยู่ในตอนนั้นเนี่ยมันเป็นช่วงปีใหม่ จริงแล้วก็ญาติพี่น้องมารวมตัวกันเพื่อที่จะ สันที่บ้านไม้หลังนี้ ทุกคนนี่อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตากันหมดครับ แถมบางคนก็เป็นญาติพี่น้องคุณอิงที่ไปทำงานต่างจังหวัด แล้วก็กลับมาเยี่ยมบ้านในช่วงปีใหม่ ในตอนที่นั่งดื่มกันอยู่ครับ ผัวก็บอกนะครับว่าให้ญาติเนี่ยนอนที่บ้านไม้หลังนี้ได้เลย รั้วปู่เดินไฟไว้ให้หมดแล้ว ในคืนนั้นคุณเองก็จะนอนในบ้านไม้หลังนี้ด้วยนะครับ หรือว่าพี่น้องมากันเยอะ นอนรวมๆ เนี่ยน่าจะ แต่แล้วความสนุกที่คุณอิงคิดมันก็หมดไป อยู่ในกลางดึกของคืนนั้นครับ ตอนที่คุณอิงนอนหลับไปแล้ว คุณหญิงรู้สึกเหมือนกับว่าหัวตัวเองเนี่ยซันซัน มันเหมือนกับมีคนเดินไปเดินมาอยู่ในบ้าน เนื่องจากพื้นบ้าน มันเป็นพื้นไม้ เวลาคนเดินแรงๆหรือว่าเดินลงส้นเท้านิดนึง พื้นมันก็จะสะเทือน แล้วพอมัน หนักเข้าหนักเข้า หญิงก็ตื่น แล้วพอคุณอิงตื่น พูดจริงก็ลุกขึ้นมานั่ง แล้วก็ สายตาหาที่มา ของการสะเทือนในบ้านหลังนี้ คุณอิงมองไปรอบๆบ้าน ปรากฏว่าที่ระเบียง ของบ้านไม้หลังนี้ อุ๋งอิ๋งเห็นป้าคุณอิงคนนึงที่กลับมาจาก ต่างจังหวัด กำลังยืนรำอยู่ แล้วพ่อคุณอิงเห็นแบบนั้นครับคุณหญิงก็กลัวแล้วก็ ปลุกพี่ที่นอนข้างๆ แล้วพอพี่เขาตื่นครับ อีนี่เขาก็ปลุกทุกคนที่ ติดๆกันให้ตื่นต่อ ในตอนนั้นก็คือต่างคนต่างงง ต่างคนต่างกลัว พี่ของคุณอิงเขาก็เลยรวบรวมความกล้า ตะโกนเรียกป้าที่กำลังยืนดำอยู่ที่ระเบียง แจ๋ว ป้าแจ๋วรามทำไมเนี่ย เท่านั้นแหละครับ ป้าแก่ก็สะดุ้ง เหมือนกับว่าถูกคนเรียกให้ตื่นเวลาหลับ แล้วป้าแกเองก็งงๆนะครับว่าทำไมแก มายืนอยู่ตรงนั้น คุยไปคุยมาครับ ป้าแก่ก็เลยเล่าให้ฟัง ตอนที่นอนหลับ ป้าแจ๋วแกฝัน ฝันว่ามีผู้หญิง หญิงคนนึงมาชวนป้ารำเป็นเพื่อน หนัง ของปีใหม่ ในตอนแรกป้าก็ไม่เอาด้วยครับ ปฏิเสธเขาไป แต่พอป้าพูดไปแบบนั้นครับ ผู้หญิงคนนั้นเขาก็ไม่ยอม เขาบอกว่าถ้าไม่มาทำเป็นเพื่อนเขาเนี่ย เขาจะให้มาอยู่ที่นี่ถาวรเลย ป้าแจ๋วก็เลยจำเป็น จะต้องยอม เป็นเพื่อนเขา แล้วพอรู้ตัวอีกที ก็คือป้าแจ๋วมารู้ตัวตอนที่ตัวเองยืนรำอยู่ที่ระเบียง แล้วพอทุกคนได้ยินแบบนี้แล้วทุกคนก็ไม่กล้านอนหลับเลยครับ รู้ว่าตัวเองจะฝันแล้วก็มีคนมาชวนไปทำด้วยอีกคน ตอนเช้าวันรุ่งขึ้นครับ ในตอนที่กินข้าว ป้าแจ๋วก็เล่าเรื่องความฝันให้ทุกคนที่ไม่ได้นอนที่บ้านไม้ฟัง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือคุณปู่ ของคุณอิงด้วย เมื่อคืนเนี่ยคือปู่แกไม่ได้นอนที่บ้านไม้นะครับ โปรแกรมนอนที่ห้องตัวเองที่บ้านปูนด้านล่าง แล้วพ่อปู่ได้ยินแบบนั้นปู่แกก็ไม่เชื่อนะครับ กูหาวัดป้าแจ๋วเนี่ยกินเยอะจนเมาฝันเพ้อเจ้อไป อยู่ๆมาหาว่าบ้านของแกมีผีนะแกไม่ยอม ปลุกแกก็เลยบอกว่าเดี๋ยววันนี้เนี่ย จะขึ้นไปนอนข้างบนบ้านไม้คนเดียวให้ดู ในตอนนั้นทุกคนก็ไม่ได้ว่าอะไรนะครับ ก็คือหัวเราะกลบเกลื่อนเอา รั้วต่างคนก็ต่างรู้ ขายปู่ดี ถ้าหาก พูดดีๆเนี่ยปู่ไม่ฟังครับ ปล่อยให้แกรู้ได้ด้วยตัวของแกเอง แล้วพอคุณเองรู้ว่าคืนนี้ปู่จะขึ้นไปนอนที่บ้านไม้คนเดียวคุณเองก็แอบไปพนมมือที่ข้างเสาบ้าน ครับตอนที่บ้านหลังนั้นเนี่ยไม่มีคนอยู่ คุณอิงจำได้ครับว่าตัวเองพูดไปว่า หากเรื่องเมื่อคืนที่ป้าแจ๋วพูดเป็นความจริง ขอให้คืนนี้ปู่เจอแบบเดียว กับป้าแจ๋ว อู่จะได้เลิกดื้อ คุณอิงพูดไปแบบนั้นจริงๆนะครับ แต่ว่าคุณอิงไม่ได้โกรธไม่ได้เกลียดปู่ ยอมรับคำว่าตอนนั้นเนี่ยพูดไปด้วยความคึกคะนองด้วย เจตนาจริงๆแล้วแค่อยาก จะให้ปู่ฟังคนอื่นบ้าง ในกลางดึกของคืนนั้นครับ เนื่องจากมันเป็นช่วงปีใหม่ คุณอิงกับยานกันนั่งดื่มกันอยู่ที่บ้านด้านล่าง ตอนนั้นเนี่ยเวลาน่าจะประมาณ 1:00 น กว่าได้ เพิ่งปู่ของคุณเอง เป็นคนแก่ที่นอนเร็วครับ 21:00 น กว่า แกก็ขึ้นไปนอนที่บ้านไม้แล้ว แต่ในตอนที่คุณอิงกำลังดื่มอยู่กับญาติๆอยู่ คุณอิงเห็นปู่เดินพาดผ้าขาวม้าเดินลงมาจากบ้านไม้ งั้นตอน 1:00 น เรื่องนี้เนี่ยมันก็ ติดมากเลยครับ ตัวของคุณเองเป็นคนหลับแล้วหลับเลย ตื่นอีกทีนึง ก็คือ 4:00 น 5:00 น ทีเดียว ในตอนที่คุณอิงเห็นปู่เดินลงมาจากบ้านไม้ รูปปู่เนี่ยเดินมาหน้าตาตื่นเลยนะครับ น้าปูก็เดินผ่านวงที่คุณอิงกำลังนั่งดื่มอยู่ คุณเองก็ถือโอกาสครับถามปู่ไปว่าปู่ตื่นมาทำไม กูแกก็หันหน้ามา แล้วก็พูดกับคุณอิงเพียงแค่สั้นๆว่า อุดรผี เท่านั้นแหละครับ คุณอิงก็รู้ได้ทันทีเลยว่าปู่ กับป้าแจ๋วแน่นอน ดีนะที่คุณอิงไม่เห็นปู่ยืนลำอยู่ที่ระเบียง ถ้าหากเป็นแบบนั้นเนี่ยคงจะน่า ขำน่าดู ในช่วงสายของวันรุ่งขึ้นครับ ทุกคนก็ถามปู่นะครับ บอลเมื่อคืนปู่เจอผีผู้หญิงมาเข้าฝันให้ไปรำเป็นเพื่อนหรือเปล่า กูเองก็ตอบนะครับว่าเปล่า ปู่บอกว่ากูเห็นเขารำให้ดูต่อ ต่อตาเลย ปู่แกบอกว่าแกนอนอยู่ และแกก็ฝัน ที่สูง เลยทำให้แกตื่นขึ้น แล้วพอแกลืมตาขึ้นมา แต่ก็เห็นผู้หญิงคนนึงเดินฟ้อนเล็บ มาจากหน้าระเบียง ไปยืนดำอยู่ที่โถงกลางบ้าน เท่านั้นแหละปู่ก็รีบหยิบผ้าขาวม้าพาดป่า แล้วก็วิ่งลงมาจากบ้านไม้ทันที ปีนี้ปู่เขาก็เชื่อแล้วครับ บ้านหลังนี้เนี่ยมันต้องมีอะไร สักอย่างแน่นอน หลังจากเรื่องราวในวันนั้นครับ ปู่ของคุณเองก็โทรหาเพื่อนแกที่แนะนำบ้านหลังนี้ให้ ติดต่อเจ้าของเก่าของบ้านไม้หลังนี้ กูแกก็ถามนะครับ กูถามไปประมาณว่าบ้านหลังนี้เนี่ยก่อนหน้านี้เป็น ของตาย มีใครเคยเสียในบ้านหรือเปล่า รู้ว่าตัวเองเคยเจอ แบบนี้แบบนี้ ญาติตัวเองมานอนก็เจอแบบนี้แบบนี้ ประมาณว่าถามประวัติ ของบ้านหลังนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในที่สุดปู่แกก็รู้ครับว่าบ้านไม้หลังนี้เนี่ย ก่อนหน้านี้เป็นบ้านของยายเจ้าของที่ วิธี แล้วถ้าหากนับรวมเวลาตั้งแต่ตอนสร้างแล้ว บ้านไม้หลังนี้เนี่ยอายุน่าจะเกือบร้อยปีได้ คุณยายของเจ้าของบ้านแกก็เสียที่บ้านหลังนี้แหละ นิยายแกเองตอนสาวๆก็เป็นครูนาฏศิล ของคณะละครอะไรสักอย่าง คณะนาฏศิลป์ของยายแกมีชื่อเสียงมากๆเลยนะครับ แต่ว่าพอยุคสมัยเปลี่ยนไป บทเรียนนาฏศิลป์ก็น้อยลง คุณเรียนดนตรีไทยก็น้อยลง คณะของคุณยายก็เลยไม่มีคนสืบทอด ก็ปิดตัวลง แล้วพอรู้ประวัติแบบนั้นแล้ว คุณอิงเองก็คุยกับคุณปู่นะครับ ผู้หญิงที่รำคนนั้นเนี่ย จะเป็นยายทวดแน่ๆ ภูมิปัญญาของเจ้าของเก่าครับ ซึ่งเป็นรุ่นยายของคุณปู่ ถ้าหากว่านับตามศักดิ์กันจริงๆแล้ว คุณเองก็ต้องเรียกว่ายายทวด แล้วคุณเองก็บอกครับ ภาพที่เห็นผู้หญิงรำเนี่ย น่าจะเป็นรูปของยายทวดตอนสาวๆแน่เลย ดูเหมือนกับว่ายายโทษเจ้าของบ้านไม้หลังนั้นเนี่ย อย่าทำให้เห็นภาพตอนที่แกยังสาวๆอะไรทำนองนั้น ซึ่งหลังจากนั้นเป็นต้นมาปู่ของคุณเองก็หายดื้อเลยครับ เพิ่งจะมาคิดได้ครับ ว่าควรทำอะไรให้ถูกต้อง อย่างน้อยที่สุดก็เพื่อความเป็นสิริมงคลของตัวเองนั่นแหละ กูก็เลยนิมนต์พระมาทำบุญขึ้นบ้านใหม่ครับ ไปก็ให้พระท่านเจิมบ้าน แล้วก็ถือโอกาสทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับยายทวดท่านด้วย เหมือนกับว่าเป็นการ กล่าวอะไรทำนองนั้นครับ แต่ซึ่งหลังจากนั้นมาเนี่ย บ้านหลังนี้ก็ไม่ค่อยมีคนขึ้นไปนอนนะครับ ต่างคนต่างรู้ดี นานๆทีจะมีแขกมาเข้า แต่ว่าแข่งที่เข้าพักเนี่ย ก็ไม่เคยเจออะไรผิดปกติเลย เหมือนกับว่าพอทำบุญให้ท่านแล้วก็บอกกล่าวท่านแล้ว ความเฮี้ยนของบ้านไม้หลังนี้เนี่ย อยู่ๆมันก็หายไปดื้อๆ แบบนั้นเลย ซึ่งตัวคุณเองก็คิดว่ายายทวดท่านนั้นก็ยังคงอยู่ที่บ้านไม้หลังนี้นะครับ หรือว่ามันมีอยู่ครั้งหนึ่งคุณเองจะต้องไป กับครอบครัว คุณอิงวิ่งขึ้นบ้านไม้ไปหยิบเก้าอี้พับครับ เพื่อจะเอา ต่างจังหวัดด้วย ตอนนั้นเนี่ยคุณเองก็พูดลอยๆขึ้นมากลางบ้านว่า ผมไปต่างจังหวัด 3 วัน ฝากบ้านทุกหลังในรั้วด้วยนะครับ แล้วพอพูดจบครับเหมือนกับว่ายายทวดท่านรับรู้ คุณเก่งได้ยินเสียงเหมือนที่ใต้ถุนบ้านไม้หลังนี้เนี่ย มันมีเสียงช้อนตก หรือเป็นเสียง สังกะสีที่มันตกกระทบกัน เหมือนกับว่าเป็นการตอบรับอะไรทำนองนั้น คุณอินเขาบอกว่าเรื่องนี้เนี่ยคนอื่นเขา จะคิดไปเองก็ได้นะครับ หรือว่าคุณเองไม่มี ฐานอะไรยืนยันเลยแม้แต่ อย่างเดียว โปรดใช้วิจารณญาณในการรับฟังด้วยนะครับ เรื่องวันนี้ผมตั้งใจเอามาลงวันนี้เลยนะคุณผู้ฟังเพราะว่าอยากจะได้เรื่อง สอบ จากที่เราหนัก จากหวยกันมาแล้ว เรียบร้อยครับในงวดวันที่ 16 ตามนั้นแหละคุณผู้ฟังเจ็บปวดมาแล้วเราก็ฟังเรื่องอะไรที่มันเบาๆนิดนึง เรื่องราวของคุณอิงครับ ในตอนแรกที่ ผมอ่านเนี่ยผม คิดว่าบ้านมันต้องเฮี้ยนแน่เลย ก่อนที่จะถึงตอนจบหรือว่าเรื่องราวที่คุณอิงรู้ตอนจบเนี่ย ผมคิดว่าตอนแรกนะ บ้านหลังนี้เนี่ยอาจจะทำ มาจากไม้ที่เขามีนางไม้แล้วก็ เขาหวงบ้านหวงอะไรหรือเปล่า สรุปแล้วพลิกล็อค มันจะคล้ายกับเรื่องก่อนหน้านี้รู้ 2 วันนะคุณผู้ฟังเรื่องราวของคุณไว้ ที่เขาไปต่างจังหวัด ของบ้านเนี่ย ที่เป็นวิญญาณ ยายเหมือนกันครับ แบบนี้เนี่ยผมคิดว่าน่าจะเรียกได้นะประมาณว่าผีบ้าน ผีเรือนอะไรทำนองนี้ รู้ว่าเห็นที่คุณอิงบอกเนี่ยคุณ เขารู้มาว่ายายทวดคนนี้เนี่ย ที่บ้าน นี่อาจจะเป็นคำใบ้ของคนโบราณหรือว่าเป็นกุศโลบายของคนโบราณก็ได้นะคุณผู้ฟัง คือคนเสียชีวิตไปแล้วหรือว่าคนที่เป็น คนสูงอายุที่เสีย ชีวิตในบ้านเนี่ย เขายังยึดติดที่นั่น กลับมาวนเวียน กลับมาสิงอยู่ที่บ้าน ก็อยู่ดูแลลูกหลาน ตู่ช่วยเหลือ หลานอะไรทำนองนั้น คนโบราณเขาเลยเรียก ผีเรือนหรือเปล่า เออมันก็ คิดเหมือนกันนะครับ ส่วนเรื่องของคุณปู่คุณอิง จริงๆแล้วคนสูงอายุท่านก็จะแบบประมาณว่าเขาเชื่อเรื่องพวกนี้อยู่แล้วเนาะ มีคุณปู่ คุณเองนั่นแหละ ที่คุณอิงบอกว่าเขาไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้แล้ว ค่อนข้างแบบมีความเป็นตัวของตัวเองสูง ดูหัวล้านนั่นแหละคุณผู้ฟัง ยิ่งอายุเยอะยิ่งหัวล้าน ใครพูดอะไรก็ไม่เชื่อ ดูถูกดูหมิ่นครับว่าบ้านหลังนี้เนี่ย อยากเป็นเพียงแค่บ้านไม้หลังเล็กๆ ไม่ต้องดูฤกษ์ยาม หรือไม่ต้องดูวันขึ้นบ้านใหม่ก็ได้ไม่ได้ทำบุญอะไรอย่างนี้ โดยที่คุณ ฉันไม่รู้เลยครับ จริงแล้วเนี่ย เขามีผีบ้านผีเรือน ก็คือคุณยายคนนั้นนั่นเองครับ และเรื่องที่คุณเองคุยกับผมเนี่ยก็คือเรื่องที่เห็นผู้หญิงเขารำให้ดู คนที่เห็นเขาบอกว่าเห็นเป็นผู้หญิง สาวเลยนะครับ อาจจะเป็นแบบที่คุณอิงพูดก็ได้เนาะ คือคุณยายท่าน จะทำให้เห็นครับ ค่าประมาณว่าตอนท่านยังสาวๆว่าท่านรำสวยแค่ไหน แล้วก็ทำให้รู้ครับว่าบ้านหลังนี้เนี่ยท่านอยู่ที่นี่นะ เป็นผีบ้านผีเรือนอยู่ที่นี่ คอยดูแลที่นี่ต้อง ให้ความเคารพท่านอะไรทำนองนั้น และหลังจากที่คุณปู่ของคุณอิง คิดได้ครับ ทำบุญแล้วก็อุทิศส่วนกุศล รวมถึงให้ความยอมรับ นับถือและก็ไม่ได้ดูถูกดูหมิ่นว่าบ้านหลังนี้มันหลังเล็กเรื่องความเฮี้ยนของบ้านหลังนี้ก็หมดไปเลยครับ ปากร้ายกลับกลายเป็นดีซะอีก บางทีเราก็ไม่รู้เนาะ ว่าบ้านหลังเล็กที่เราคิดว่ามันเล็กเนี่ย จะเป็นบ้านที่คุณยายท่าน หาเงินมาทั้งชีวิตเพื่อสร้างหรือเปล่า ไม่แน่เหมือนกันนะ ความคิดของเรากับความ คิดของผีเนี่ยมันอาจจะไม่เหมือน เหมือนกันก็ได้ แล้วคุณไม่ฟังเหรอครับ คุณคิดยังไงกับเรื่องราวของคุณอีก ตัวคุณเองคิดว่าคุณยายท่านเป็นผีบ้านผีเรือนจริงๆหรือเปล่า คุณคิดเห็นยังไงครับ สามารถคอมเม้นลงที่ด้านล่างได้เลยนะครับ ผมและทีมงานตอบคุณทุกข้อความอย่างแน่นอน แล้วคุณผู้ฟังสามารถสนับสนุนพวกเราได้ง่ายๆนะครับเพียงแค่กดไลค์ หรือกดแชร์ไปที่ไหนก็ได้สักที่ที่คุณต้องการ เพียงเท่านี้ครับ จะเป็นการเปิดการมองเห็นให้กับคลิปวีดีโอของพวกเรา ให้เรามีผู้ชมใหม่ๆเพิ่มมากขึ้นนั่นเองครับ แล้วสำหรับวันนี้ครับคุณผู้ฟังผมขอบคุณมากๆนะ ไว้เจอกัน 108 เรื่องหลอนใน EP หน้า ขอให้คืนนี้ เป็นคืนที่ดี