ในประเทศไทยที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่น่าทึ่ง จังหวัดอุดรธานีเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีทั้งความสงบและความสวยงามที่มอบประสบการณ์ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยความหลากหลายและเสน่ห์ที่น่าตื่นเต้นตลอดทั้งปี ไม่ว่าคุณจะเป็นคนรักธรรมชาติและธรรมเนียม หรือหากคุณเป็นคนที่หลงใหลในเรื่องของอาหารอร่อยและการช้อปปิ้ง อุดรธานีนั้นมีทุกสิ่งที่คุณต้องการ
สถานที่ท่องเที่ยวยอดเยี่ยมในอุดรธานี
1. วัดพระธาตุทองคำ
แห่งความศักดิ์สิทธิ์ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน วัดพระธาตุทองคำเป็นที่น่าทึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาที่นี่เพื่อให้การเคารพและชมความงดงามของสถานที่นี้
2. สวนสาธารณะอุดรธานี
สถานที่ที่เหมาะแก่การพักผ่อนและนั่งเล่นในบรรยากาศสดชื่น นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมมากมายในสวนที่คุณสามารถเข้าร่วมและสนุกไปกับครอบครัวและเพื่อนๆ
3. ตลาดหนองขอนแก่น
เป็นสถานที่สำคัญที่เต็มไปด้วยสินค้าที่น่าสนใจและอร่อย เช่น ขนมหวานพื้นเมือง ผลไม้สด และของที่ระลึกที่คุณสามารถซื้อเป็นของขวัญ
วัฒนธรรมและงานศิลปะ
1. งานประเพณีบูรพา
เป็นงานประเพณีที่จัดขึ้นในช่วงเดือนมีนาคมของทุกปี นี่คือโอกาสที่คนทั่วไปสามารถมาร่วมเป็นส่วนของประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและเอนกประสงค์
2. พิพิธภัณฑ์ศิลปะอุดรธานี
สำรวจความเจริญรุ่งเรืองของศิลปะและวัฒนธรรมท้องถิ่นในพิพิธภัณฑ์นี้ คุณจะได้เห็นการแสดงและสิ่งสร้างที่น่าทึ่ง
อาหารอร่อยและร้านอาหาร
1. ร้านก๋วยเตี๋ยวนครปฐม
เส้นก๋วยเตี๋ยวนุ่มละมุนลิ้น เต็มไปด้วยรสชาติอร่อยที่ไม่ว่าใครจะต้องลิ้มลอง
2. ร้านอาหารป่านแก้ว
มื้ออาหารที่นี่มีความหลากหลายและสามารถค้นพบอรรถรสเพลิดเพลินไปกับอาหารท้องถิ่น
การช้อปปิ้งและการพักผ่อน
1. ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซา อุดรธานี
สถานที่ช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดในเขตเหนือของประเทศไทย คุณสามารถเลือกซื้อสินค้าและสินค้ามือสองที่นี่ได้ตามใจชอบ
2. โรงแรมหรูระดับโลก
อุดรธานียังมีที่พักหรูระดับโลกที่มอบประสบการณ์การพักผ่อนที่ผ่อนคลายและสะดวกสบาย
สรุป
อุดรธานีเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นเต้นและมีความหลากหลายที่เต็มไปด้วยสิ่งที่คุณต้องการในการสนุกสนานและพักผ่อน ไม่ว่าคุณจะเป็นคนรักธรรมชาติ ชอปปิ้ง หรือสำรวจวัฒนธรรมท้องถิ่น อุดรธานีนั้นมีทั้งหมดเพื่อคุณ!
FAQ
1. ความห่างไกลจากกรุงเทพฯ มีกี่กิโลเมตร?
ความห่างของอุดรธานีจากกรุงเทพฯ ประมาณ 565 กิโลเมตร
2. มีสถานที่ท่องเที่ยวเพียงแห่งเดียวในจังหวัดนี้หรือไม่?
ไม่เพียงแห่งเดียว นอกจากวัดพระธาตุทองคำยังมีหลายสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย
3. ฤดูไหนที่เหมาะสมที่สุดในการเยือนอุดรธานี?
ฤดูหนาวถือเป็นฤดูที่เหมาะสมที่สุดในการเยือนเนื่องจากอากาศจะเย็นสบายและผ่อนคลาย
4. มีสิ่งใดนอกจากวัดและสถานที่ประวัติศาสตร์บ้างในอุดรธานี?
นอกจากวัดและสถานที่ประวัติศาสตร์ ยังมีงานศิลปะและวัฒนธรรมท้องถิ่นที่น่าสนใจ
5. การเดินทางไปอุดรธานีสะดวกหรือไม่?
การเดินทางไปอุดรธานีสะดวกมากโดยสามารถเดินทางด้วยรถยนต์ รถบัส หรือเครื่องบินได้
อุดรธานี | เมืองผ่านที่ถูกเลือก [VIDEO]
“ชมรีวิวเพิ่มเติมที่นี่: https://www.chillpainai.com/scoop/10647/
DAY 1
วัดผาตากเสื้อ
สังคมริเวอร์วิว รีสอร์ท
DAY2
ร้านเส้นเป็นเตี๋ยว
พันโขดแสนไคร้
เคียงโขงชมหมอก
DAY 3
ยอดภูห้วยอีสัน
วัดถ้ำศรีมงคล
ตลาดท่าเสด็จ
#หนองคาย #อีสาน”
เนื้อหาของวิดีโอ อุดรธานี | เมืองผ่านที่ถูกเลือก
ไม่เปลี่ยนบรรยากาศไปสัมผัสเสน่ห์อีสานกันบ้างค่ะ ทริปนี้เราจะชวนทุกคนขับรถไปเที่ยวอีสาน แบบไม่ต้องรอหน้าหนาวก็ฟินได้ เริ่มรู้กันตั้งแต่กรุงเทพฯโคราชหนองคายกับทริปสบายๆ 3 วัน 2 คืน จะสนุกสดชื่นขนาดไหน หยิบกุญแจสตาร์ท แล้วไปกันเลยค่ะ เราออกเดินทางจากกรุงเทพฯแต่เช้าตรู่ ขึ้นดอนเมืองโทลเวย์ ถังยกระดับอุตราภิมุข มุ่งตรงไปยังจังหวัดหนองคายแวะทานมื้อเที่ยงง่ายๆระหว่างทาง จากนั้นขับไปเส้นอำเภอสังคม เพื่อไปเที่ยวที่วัดผา สถานที่ท่องเที่ยว Unseen แห่งเมืองหนองคาย ที่มีไฮไลท์อย่างทางเดินกระจก สกายวอล์คนั่นเองค่ะ ชมวิวด้านบนแล้วเราก็เดินลงมาตามทางเดินบันไดเลาะเลียบไหล่เขาเพื่อไปไหว้ ครับบริเวณถ้ำพระ ที่มีพระพุทธรูป แล้วรูปปั้นของพระสงฆ์เรียงรายอยู่บริเวณใต้ชะง่อนผาใหญ่ จุดนี้มีนักท่องเที่ยวไม่มากเหมือนด้านบนค่ะ บรรยากาศสงบเงียบ ใครมาเที่ยววัดผาตากเสื้อ ลองหาโอกาสลงมาไหว้พระที่นี่กันดูค่ะ จากวัดผาตากเสื้อเราไปเช็คอินเข้าที่พักคืนแรก ที่สังคมริเวอร์วิวรีสอร์ทน่ารักริมแม่น้ำโขง ที่นี่มีทางที่พัก ร้านอาหาร ร้านกาแฟและจุดชมวิวในบริเวณรีสอร์ท เหมาะกับการมาพักผ่อนนอนชิลริมแม่น้ำโขงกษัตริย์คืน ห้องพักที่นี่มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ทั้งห้องบนตึกที่สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำโขงได้จากห้องนอน และบ้านพักเป็นหลัง ที่มีระเบียงให้นั่งเล่นชมวิวชิวๆได้ มื้อเย็นเราฝากท้องไว้ที่ห้องอาหารของรีสอร์ทค่ะ ซึ่งไม่ใช่แค่นักท่องเที่ยวที่มาพักที่นี่เท่านั้นแต่ยังมีลูกค้าจากภายนอก เข้าไปทานอาหารกันหลายโต๊ะเลยล่ะค่ะ สอบถามได้ความว่าที่นี่เริ่มต้นจากการเป็นร้านอาหารชื่อดังในตัวอำเภอเมืองสังคม อยากร้านปูเป้มาก่อน ตอนหลังจึงค่อยมาทำเป็นรีสอร์ท เลยไม่แปลกใจที่ลูกค้าเก่าๆหลายคนจะติดใจรสชาติจนต้องตามมาทานอาหารที่นี่ค่ะ ตอนเช้าเราตื่นมาถ่ายรูปเล่น ชมวิวกันในบริเวณรีสอร์ทแต่เช้าค่ะ ชดเชยที่เมื่อวานยังสำรวจไม่ทั่ว ซึ่งในรีสอร์ทก็มีมุมถ่ายรูปสวยๆให้เซลฟี่กันเพียบเลยล่ะค่ะ ยางผนังตึกที่ปกคลุมด้วยตีนตุ๊กแกสีเขียวเป็นฉากถ่ายรูปยอดฮิตของใครที่มาเที่ยว พักผ่อนที่นี่ เราทานอาหารเช้าท่ามกลางบรรยากาศริมแม่น้ำโขงฟินๆ อากาศตอนเช้าสดชื่นมากๆค่ะ บรรยากาศดีฉันไม่อยากเช็คเอาท์กันเลยทีเดียวค่ะ จากการ Check Out แล้วออกเดินทางไปเที่ยวกันต่อค่ะ ก่อนไปเที่ยวเราแวะทานก๋วยเตี๋ยวมื้อเที่ยงเจ้าอร่อยระหว่างทาง ชื่อร้านเส้นเป็นเตี๋ยว Aston ม่วง บรรยากาศร้านเรียบง่ายแต่น่ารัก มีที่ ไม่ให้ค่ะชิวๆ ก๋วยเตี๋ยวชมวิวแม่น้ำโขงไปด้วย เติมพลังกันเรียบร้อยแล้ว เราไปล่องเรือชมวิวแม่น้ำโขงกันดีกว่าค่ะ เดี๋ยวจะว่ามาไม่ถึงหนองคาย เราเลือกใช้บริการเรือนำเที่ยวของชาวบ้านในชุมชน เดินไปลงเรือที่ท่าเรือบ้านม่วง จะมีชาวบ้านเป็นไกด์นำเที่ยวล่องเรือชมวิวแม่น้ำโขง ในราคาลังละ 350 บาท ใช้เวลาล่องเรือประมาณ 1 ชั่วโมง โดยเรือจะล่องไปตามแม่น้ำโขง ไปยังบริเวณที่เรียกว่าพันธุ์โค ใคร ที่นี่ได้สมญาว่าเป็นแกรนแคนยอนแม่น้ำโขงแห่งหนองคาย เพราะมีต้นไคร้นับแสนต้น ขึ้นอยู่บนโขดหินขนาดใหญ่ และเนินทรายกลางแม่น้ำโขงมากมายค่ะ จดได้ชื่อว่า เป็นดินแดนพันโขดแสนไคร้ กินพื้นที่ในแม่น้ำโขงฝั่งหนองคายเริ่มตั้งแต่หมู่บ้านตราดเสริม บ้านม่วง บ้านภูเขาทองบ้านหนองไปจนถึงบ้านห้วยค้อรวมระยะทางประมาณกว่า 5 กิโลเมตร ขากลับเราได้นั่งเรือชมพระอาทิตย์ตกกลางแม่น้ำโขง บรรยากาศดีวิวสวยมากๆค่ะ ถือเป็นประสบการณ์ที่ประทับใจอีกวันหนึ่งของทริปนี้เลยล่ะค่ะ คืนนี้เราพักกันที่เชียงของชมหมอก ที่พักเรียบง่ายบรรยากาศอบอุ่นแบบโฮมสเตย์ริมแม่น้ำโขง ในตำบลบ้านม่วง อำเภอสังคมจังหวัด หนองคาย นักท่องเที่ยวนิยมมานอนกางเต็นท์ริมแม่น้ำโขงที่นี่กันคึกคักค่ะ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว มื้อเย็นโทรศัพท์หมูกระทะมานั่งกินกันค่ะ ส่วนคุณเพื่อนขอจัดเป็นหม้อจิ้มจุ่มละกัน บอกว่าสู้ควันไม่ไหว เช้าวันรุ่งขึ้นเราตื่นมาประมาณ 5:30 น เพื่อไปขึ้นรถอีแต พาหนะที่จะพาพวกเรา ขึ้นเขาไปดูทะเล ที่ปลูกกล้วยอีสาน เพราะหนทางนั้นขรุขระลาดชัน ต้องใช้รถอีแต๊กของชาวบ้านเท่านั้นค่ะ ปกติช่วงหน้าหนาว ที่นี่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก จะคิดค่าโดย คนละ 60 บาท นั่งได้ 5 คนค่ะ แต่ถ้ามาในช่วงนอกฤดูท่องเที่ยวอย่างพวกเรา ก็สามารถมองขึ้นไปคันละ 300 บาท เมื่อเทียบ ที่ค่อนข้างวิบาก ถือว่าไม่แพงและยังช่วยกระจายรายได้ให้กับชุมชนท้องถิ่นไปด้วยค่ะ ใช้เวลานั่งรถอีแต๊กประมาณ 30 นาทีก็ขึ้นไปถึงด้านบนยอดภูห้วยอีสัน จุดชมวิวทะเลหมอกชื่อดังของหนองคายมีระเบียงไม้สำหรับเป็นจุดชมวิวทะเลหมอก อยู่ 3 จุดด้วยกันค่ะ ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ช่วยกันพัฒนาให้เป็น ท่องเที่ยว ชมวิวกันจุใจเต็มที่แล้ว เรานั่งรถอีแต๊กกลับมาอาบน้ำเก็บของ check out วันนี้เป็นวันสุดท้ายของคลิป ขอแวะเที่ยวกรุบกริบระหว่างทางค่ะ จุดหมายแรกของเราอยู่ที่วัดถ้ำศรีมงคลอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในตำบล อำเภอสังคมจังหวัด หนองคาย ที่มีไฮไลท์อย่างถ้ำดินเพียง ชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นถ้ำพญานาค ใช้เดินทางสู่เมืองบาดาล ภายในถ้ำมีเส้นทาง เชื่อมต่อกันมากมายค่ะ ภายในโถงสำคัญๆของถ้ำจะมีการประดับไฟไว้ค่ะ แต่ที่เหลือนอกเส้นทาง ปราศจากแสงไฟ การเที่ยวชมถ้ำต้องมีไกด์นำทางเข้าชมนะคะ โรคภัยในถ้ำค่อนข้างซับซ้อน มีทางเดินใต้ดินที่วกวน หลงทางได้ง่ายๆค่ะ ว่ากันว่าทางเดินบางแห่งนั้น สามารถทะลุไปถึงแม่น้ำโขงได้เลยทีเดียว นอกจากจะได้เที่ยวตามรอยตำนานเส้นทางพญานาค ภายในถ้ำยังมีพระพุทธรูปปางนาคปรกประดิ ให้เราได้กราบไหว้อธิ ขอพรด้วยค่ะ บางช่วงในถ้ำศรีมงคลนั้นทางเดินแคบมากๆ ต้องระวังและฟังคำแนะนำ ของไกด์ที่ดีค่ะโดยเฉพาะช่วงสุดท้ายก่อนจะไปถึงทางออก ที่เรา ผ่านช่อง แค่ประมาณ 50 เซนติเมตรเท่านั้นค่ะ แนะนำใส่ชุดทะมัดทะแมง หรือเตรียมเสื้อผ้ามาเปลี่ยนไว้เผื่อเหลือสำรองไว้ก็ดีค่ะ จากนั้นเราขับรถเข้าตัวเมือง แวะทานข้าวและซื้อของฝากที่ตลาดท่าเสด็จกันพอหอมปากหอมคอ ของฝากขึ้นชื่อของ หนองคายแน่นอนว่า ต้องเป็นหมู เส้นก๋วยจั๊บญวนมะพร้าวแก้ว และปลาร้า เด่นเรื่องช้อปกันได้ทั้งวันค่ะ ถ้ามีเวลาเหลืออาจแวะไปถ่ายรูปกับตึก สไตล์ชิโนโปรตุกีสสวยๆในตัวเมืองหนองคาย พิกัดอยู่แถวหน้าวัดศรีเมือง ไม่ไกลจากตลาดท่าเสด็จด้วยก็ได้ค่ะ เป็นยังไงกันบ้างครับกับพิกัดดีๆที่เราหยิบมาแนะนำกัน ถ้าชอบถ้าถูกใจก็อย่าลืมกด Subscribe Channel และติดตามแฟนเพจชูไปไหนไว้ด้วยนะครับ จะได้ไม่พลาดเรื่องราวท่องเที่ยวอัพเดทใหม่จากพวกเรา