1. ยินดีต้อนรับสู่ อุทัยธานี: สวรรค์ของธรรมชาติและวัฒนธรรม
อุทัยธานี เป็นจังหวัดที่อุดมสมบูรณ์ด้วยความงดงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ในทริปเที่ยวครั้งนี้ คุณจะได้พบกับบรรยากาศที่เงียบสงบและสงบใจ ท่ามกลางธรรมชาติที่ร่มรื่นและภูเขาที่สูงงาม ไม่ว่าคุณจะเป็นคนชอบผจญภัยหรือชื่นชมวิถีชีวิตท้องถิ่น อุทัยธานีน่าจะเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นเต้นมากที่คุณไม่ควรพลาด!
2. วันแรก: ส่งตัวเองเข้าสู่ธรรมชาติ
H2: การเดินทางไปยังอุทัยธานี
เมื่อเดินทางมาถึงอุทัยธานี คุณจะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากบรรยากาศเป็นธรรมชาติและประชาชนท้องถิ่น ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์หรือรถบัสจากกรุงเทพฯ เพื่อให้คุณได้เข้าสู่การผจญภัยในทริปครั้งนี้
H2: ติดต่อธรรมชาติที่ร่มรื่น
นำตัวเองเข้าสู่ธรรมชาติอุทัยธานีที่มีป่าเขาที่ร่มรื่นและสะอาด คุณสามารถเดินป่าเพื่อสัมผัสกับความงดงามของพรรณไม้และสัตว์ป่าที่มีอยู่ในพื้นที่นี้
H2: พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ
เลือกที่พักที่อยู่ริมน้ำหรือภูเขา เพื่อให้คุณสามารถพักผ่อนและรับรสชาติของความเงียบสงบในทริปนี้ หากคุณชื่นชอบการผจญภัย ลองตั้งเต็มใจไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ในอุทัยธานี
3. วันที่สอง: สำรวจวัฒนธรรมและอาหารท้องถิ่น
H2: สำรวจวัฒนธรรมท้องถิ่น
อุทัยธานีเป็นที่ตั้งของวัดสโลวไลฟ์พาที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน คุณสามารถสำรวจและเรียนรู้เรื่องราวที่นำเสนอในวัดแห่งนี้ รวมถึงศิลปะและวัฒนธรรมของชาวอุทัยธานี
H2: สัมผัสกับความอร่อยของอาหารท้องถิ่น
อุทัยธานีไม่เพียงแต่มีวิถีชีวิตที่เงียบสงบ แต่ยังมีรสชาติอาหารท้องถิ่นที่อร่อยไม่เหมือนใคร ลองสัมผัสกับรสชาติของเครื่องดื่มและอาหารที่ผู้คนในพื้นที่ชื่นชอบ
4. วันสุดท้าย: พิพิธภัณฑ์และสุดยอดประสบการณ์
H2: ไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น
วันสุดท้ายของทริปคือเวลาที่เหมาะสำหรับการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น เพื่อให้คุณเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของชาวอุทัยธานี
H2: ประสบการณ์การเดินทางสุดท้าย
ในวันสุดท้ายของการท่องเที่ยว ลองสรุปประสบการณ์ของคุณในทริปเที่ยวนี้ คุณอาจจะได้เรียนรู้และพัฒนาตัวเองในทางที่ไม่เคยคาดคิด
สรุป
ทริปเที่ยว อุทัยธานี 3 วัน 2 คืนเป็นโอกาสที่ดีในการตื่นตาตื่นใจกับธรรมชาติและวัฒนธรรมของจังหวัดนี้ คุณจะได้พบกับความงดงามของธรรมชาติและสัมผัสกับวิถีชีวิตท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าคุณจะชื่นชอบการผจญภัยหรือความเงียบสงบ อุทัยธานีคือจุดหมายปลายทางที่คุณควรพิจารณา
FAQs
Q1: อุทัยธานีมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอะไรบ้าง?
A1: อุทัยธานีมีหลายสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น วัดสโลวไลฟ์พาและป่าเขาที่สวยงาม
Q2: มีอาหารอร่อยให้ลิ้มรสที่ไหนบ้าง?
A2: คุณสามารถสัมผัสกับรสชาติอาหารท้องถิ่นที่ร้านอาหารและตลาดในพื้นที่
Q3: มีที่พักที่แนะนำในอุทัยธานีหรือไม่?
A3: คุณสามารถพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติที่ริมน้ำหรือภูเขาได้ตามความต้องการ
Q4: มีกิจกรรมใดที่ควรลองในทริปครั้งนี้?
A4: คุณควรลองเดินป่าเพื่อสัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติและเยี่ยมชมวัดสโลวไลฟ์พา
Q5: สิ่งที่ควรรู้ก่อนการเดินทางไปอุทัยธานี?
A5: ควรเตรียมตัวด้วยเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับสภาพอากาศและรองเท้าที่สะดวกสบายสำหรับการเดินทางในธรรมชาติ
ทริปเที่ยว อุทัยธานี 3 วัน 2คืน เที่ยวเมืองสโลวไลฟ์พาใจไปพักผ่อน [VIDEO]
“รีวิวเพิ่มเติม https://www.chillpainai.com/scoop/14712/
– Day 1 –
วัดอุโปสถาราม
เปิดบริการ: สามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งวัน
ที่ตั้ง: ตำบลสะแกกรัง อำเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี
พิกัดGPS: https://goo.gl/maps/4E8oTCvkZzq1VGwg6
เจ๊เขียวผักบุ้งไต่ราว
ที่ตั้ง : ตำบล อุทัยใหม่ อำเภอเมืองอุทัยธานี อุทัยธานี 61000
GPS : https://goo.gl/maps/GvxL6fGodcizkvML7
X-bar cafe’ (เอ็กบาร์ คาเฟ่)
ที่ตั้ง : ซอย รักการดี เมือง อำเภอเมืองอุทัยธานี อุทัยธานี 61000
เวลาเปิดบริการ : ทุกวัน 07:00–16:30 น.
โทรศัพท์ : 0809662328
Facebook : X-bar cafe’ Uthaithani
GPS : https://g.page/iamcafeuthaithani?share
ถนนคนเดินตรอกโรงยา
เปิดบริการ: เปิดเฉพาะวันเสาร์ 15:00-20:00 น.
ที่ตั้ง: ถนน มหาราช, ตำบล อุทัยใหม่ อำเภอเมืองอุทัยธานี
พิกัดGPS: https://goo.gl/maps/qGnaggNrDCaRgvnP6
เจ๊ดาปลาลวก
ที่ตั้ง : 61000 137 ถนนท่าช้าง ตำบล อุทัยใหม่ อำเภอเมืองอุทัยธานี อุทัยธานี 61000
เวลาเปิดบริการ : ทุกวัน 16:30–21:00 น.
โทรศัพท์ : 056571409 ”
เนื้อหาของวิดีโอ ทริปเที่ยว อุทัยธานี 3 วัน 2คืน เที่ยวเมืองสโลวไลฟ์พาใจไปพักผ่อน
จังหวัดอุทัยธานีเป็นจังหวัดที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนัก อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยว Unseen สวยๆมากมาย ที่หลาย อาจจะไม่เคยรู้มาก่อน แถมยังมีคาเฟ่น่ารักๆอีกด้วยค่ะ วันนี้ฉันไปไหนจะพาไปเที่ยวอุทัยธานีกันค่ะกับทริปอุทัยธานี 3 วัน 2 คืน ที่เอาใจใส่ธรรมชาติ ขาย slow จะมีที่ไหนบ้างตามไปชมกันเลยค่ะ เราออกเดินทางจากกรุงเทพฯด้วยรถส่วนตัวในตอนเช้าค่ะ ถึงอุทัยธานีช่วงสายๆ สถานที่แรกที่เราไป ก็คือวัดอุ หารามค่ะ นี้รู้จัก ชื่อว่าวัดโบสถ์ค่ะ วัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสะแกกรัง มีอุ สดและวิหารสีขาวที่ถูกยกขึ้นจากระดับพื้นปกติ ทำให้ดูโดดเด่นสะดุดตา ภายในโบสถ์จะมีภาพจิตรกรรมฝาผนังสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ที่บอกเล่าเรื่องราวของพุทธประวัติ เริ่มตั้งแต่ประสูติจนไปถึงปรินิพพาน ส่วนในวิหารเป็นภาพพระพุทธเจ้าเสด็จโปรดเทพยดาบนสวรรค์ และภาพปลงสังขาร ถ้าใครมีโอกาสได้แวะมา ความประณีตและงด ผลงานชิ้นนี้กันนะคะ พอเดินไปที่ด้านหลังของโบสถ์และวิหารที่ติดกับแม่น้ำ จะมีมณฑปแปดเหลี่ยมที่ตั้งอยู่ริมน้ำค่ะ อาคารหลังมีรูปร่างแปลกตา ซึ่งได้รับอิทธิพลของตะวันตก อ่านอีกด้วยค่ะ หลังจากที่ได้ไปเยี่ยมชมวัดอุบลสถาพรเพื่อให้เป็นสิริมงคลแก่การเริ่มต้นทริปแล้ว เราก็เริ่มออกเดินทาง ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟเจ้า และเก่าแก่กันต่อค่ะ นั่นก็คือเจ๊เขียวผักบุ้งไต่ราวนั่นเอง ถ้าพูดถึงเมนูเด็ดของร้านก็ต้องเย็นตาโฟต้มยำค่ะ พี่เจ๊เขียวเป็นคนปรุงให้กับมือ เส้นใหญ่นุ่มๆ น้ําเย็นตาโฟ ถูกปรุงรสมาให้แซ่บ จ๊าดมาก ถ้าหมาต้องโดนค่ะ หลังจากกินข้าวแล้วเราก็ไปตบท้ายด้วยของหวาน กันที่ร้าน Bar Cafe ค่ะ ร้านคาเฟ่แนว ติดเท่ๆ ใจวัยรุ่น ซื้อกาแฟที่นี่เขาจะใช้อาราบิก้าจากดอยช้าง Ben กับโรบัสต้าของเวียดนามค่ะ เมนูที่อยากแนะนำของที่นี่จะเป็น กาแฟช็อต กับน้ำผลไม้ต่างๆ ที่รสชาติออก ลงตัวมากๆค่ะ แถมยังมีเมนูเบเกอรี่ต่างๆที่พนักงานของ ของทางร้านนำออกมาขาย เพื่อเป็นการ เสริมรายได้พิเศษ อีกด้วยค่ะ หลังจากนั่งคาเฟ่กันเพลินๆแล้ว เราก็ไปเดินถนนคนเดินตรอกโรงยากันต่อค่ะ ที่นี่เป็นถนนคนเดินสั้นๆ แต่เต็มไปด้วย ของกินเจ้าเด็ดเจ้า ของเมืองอุทัยธานีค่ะ ไม่ว่าจะเป็นหมูสะเต๊ะ 100 คิว ขนมกง ขนมโบราณที่หาทานได้ยาก ข้าวเกรียบปากหม้อ น้ำพริกคุณ ขนมเบื้องญวนและอื่นๆอีกมากมายเลยค่ะ เมื่อเดินมาเรื่อยๆเราจะเจอซอยเล็กๆ ที่เป็นทางเข้าให้เราได้ ภาษาเกี่ยวกับประวัติ ตรอกโรงยา ที่นี่จะมีพิพิธภัณฑ์จำลองตั้งเอาไว้ แล้วจะมีน้องๆนักเรียนคอยให้คำบรรยาย เกี่ยวกับประวัติที่น่าสนใจของ ของตรอกโรงยา อย่างนี้ค่ะ หลังจากเดินเล่นที่ ตลาดกันจนค่ำ เราก็เลยแวะรับประทานอาหาร ผ่านร้านเจ้าดัง อย่างเจ๊ดาปลาลวก ร้านนี้สามารถเดินมา คนเดินได้เลยค่ะ เมนู ที่ต้องพูดถึง ของที่นี่ก็ คือปลารั่วตามชื่อร้านเลยค่ะ เนื้อปลาทั้งสดทั้งแน่น น้ำ เมนูนี้กันเลย หลังจากกินข้าวเย็น ฉันอิ่มแล้วเราก็เข้าพักที่มายอุทัยค่ะ ห้องพัก ของที่นี่น่ารักมากๆค่ะ มีความมินิมอลสุดๆ ถูกตกแต่งด้วยสีขาว สีครีม ทำให้ดูสะอาดตาค่ะ ภายในห้องก็กว้างขวางมากๆค่ะ แถมยังมีที่ให้เราได้ ชมอยู่อีกด้วย ในส่วน ล็อบบี้ด้านล่างอย่างมี ให้เรา ถ่ายรูป กันด้วยค่ะ ตื่นมากับเช้าที่สดใส พร้อมกับข้าวเช้าที่โรงแรมมายอุทัยธานีค่ะ เพื่อเดินทาง ไปเที่ยวต่อในวันนี้ ซึ่งเน้นเป็นธรรมชาติทั้งนั้นเลยค่ะ ซึ่งที่แรกที่เราจะไปคือต้นไม้ยักษ์ค่ะ ตั้งห่างจากตัวเมืองอุทัยธานี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆค่ะ ซึ่งตรงทางเข้าไปยังต้นไม้ยักษ์จะมีตลาดให้เราเดินดูของไปเพลินๆค่ะ มีทั้ง พื้นบ้าน ต่างๆให้เราได้เลือกซื้อ ไปตลาดนี้เปิดเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์เท่านั้นนะคะ ในระหว่างทางที่เดินเข้าก็รู้สึกได้ถึงความร่มรื่นมากๆ เพราะที่นี่ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่ค่ะ พอเดินมาถึงต้นไม้ยักษ์บอกเลยว่าตกตะลึงมากๆค่ะ เพราะความใหญ่ของต้นไม้ต้องใช้คน คนในการ อบต้นไม้ให้รอบ บ่งบอกได้ถึงความอุดมสมบูรณ์ จะแข็งแรง ของต้นไม้ที่ จากนั้นเราก็เดินทางไปยังที่ต่อไปที่วัดถ้ำเขาวงค่ะ พอเข้ามาถึงก็จะเห็นวัด ที่ตั้งเด่น ท่ามกลางแมก สีเขียว เส้นวัดถ้ำเขาวงนั้นโดดเด่นในเรื่องของ สถาปัตยกรรมมากๆค่ะ เพราะว่าสร้าง จากไม้สักและไม้มะค่า ออกแบบคล้ายกับบ้านทรงไทย ด้านหน้าวัดมีสระ ขนาดใหญ่ ส่วนด้านหลังอยู่ติดกับภูเขาที่มีถ้ำค่ะ หลังจากนั้นเราก็ออกเดินทาง กันต่อค่ะ โดยเราเดินทางมาไม่ถึง 15 นาที ก็จะ ถึงที่ตลาดเสาไห้ ตลาดสุดชิคและน่ารัก ที่เต็มไปด้วย อาหารพื้นบ้านต่างๆ ที่นี่มีของให้เราได้เลือกทานมากมายค่ะ ไม่ว่าจะเป็นส้ม ผัดไทย ก๋วยเตี๋ยว อาหารตามสั่ง ขนม ชากาแฟและอื่นๆ อีกมากมาย บอกได้เลยว่าที่นี่ที่เดียว จริงๆค่ะ หลังจากทานข้าวเติมพลังกันจนอิ่มแล้ว เราก็เดินทางไปจุดถ่ายรูปยอดฮิตอย่างฝ่ายกั้นน้ำปางสวรรค์ค่ะ ที่นี่ถือว่าเป็น ที่เที่ยวยอด พิษของอุทัยธานี ก็ว่าได้ค่ะ แต่ว่าควรมาในช่วงหน้าฝนนะคะถึงจะได้ภาพสวยๆ พอถึงแล้วจะมีทางให้เราเดินเข้ามาเรื่อยๆ หลังจากนั้นจะเจอกับ ถ่ายรูปค่ะ ที่นี่จะมีบันไดและเรา สำหรับความ นักท่องเที่ยวค่ะ เพราะว่าพื้นจะค่อนข้างลื่น ตะไคร้น้ำที่เกาะตามพื้น สำหรับที่พักคืนนี้เรานอน กันที่ Art and Our คาเฟ่แอนด์เบ เป็นบ้านพัก หลังเล็กๆ 4 หลังที่อยู่กลางทุ่งนาค่ะ เป็นที่พักที่น่ารักมากๆค่ะ และภายในห้องยังมีจอโปรเจคเตอร์ให้เราได้นอนดูหนัง ได้ฟิวเกาหลี เข้าใจมากเลย ภายในห้องน้ำก็มีอ่างให้เราได้นอนแช่อีกด้วยค่ะ ถึงแม้ว่าจะอยู่กลาง แต่ สิ่งอำนวยความสะดวก คลานจริงๆค่ะ เมื่อถึงวันสุดท้ายของทริปอุทัยธานีกันแล้วนะคะ เช้านี้เราออกไปรับประทานอาหาร พร้อมกับชมวิวชายเขาและทะเล แผนที่บ้านชายเขาค่ะ ซึ่งจะมีจุดให้เราได้ขึ้นไปชม และ ผังที่ตั้งเรียงราย หลับซับซ้อนกันไปมา บอกได้เลยว่าวิว สวิตเซอร์แลนด์ เดินเล่นชมวิวธรรมชาติกันเสร็จแล้ว จะกลับเข้าไปในเมือง เราก็เลยแวะ ไปที่หุบป่าตาด Bike Camp กันสักหน่อยค่ะ เป็นร้านกาแฟสุดน่ารักบรรยากาศดีมากๆค่ะ ไรล้อมไปด้วยภูเขา ที่นี่ แต่งด้วยอุปกรณ์ จักรยาน ที่บอกได้ถึงความชอบและตัวตน ของร้านได้ดีทีเดียวค่ะ แล้วก็ยังมีเจ้า ของร้านตัวน้อยอย่างน้องแมว ที่รอต้อนรับเรา น่ารักมากๆ จะเป็นคาเฟ่แล้วที่นี่ยังมีบ้านพักอีกด้วยค่ะ หากใครที่สนใจ มาพักที่พักที่เทพบรรยากาศ ก็ต้องมาที่นี่เลยค่ะ เดินทางกลับเข้ามาในเมืองใช้เวลาเกือบชั่วโมง เราก็เลยแวะเข้ามารับประทานอาหาร กันที่ร้านบะ เจ๊เน บะหมี่ร้านดังประจำจังหวัดอุทัยธานีค่ะ ร้าน ออกแบบให้มีความทันสมัย แถมยังเป็นห้องแอร์ไม่ร้อนด้วยค่ะ เมนูของร้านก็มีก๋วยเตี๋ยว ทั้งแห้งทั้งน้ำแล้วก็ต้มยำให้เราได้เลือกทานค่ะ ความพิเศษ Present บะ ที่นุ่มละมุนลิ้นมากๆ แถม กลมกล ใครมาแนะนำว่าให้ เส้นบะหมี่เลยค่ะ กินข้าวไปแล้วก็มาตบท้ายด้วยของหวานเป็นการปิดทริปอุทัยธานีกันค่ะ ร้านสุดท้ายที่เรามานั่น ก็คือร้านเดลลาโรตี ไทยธานีค่ะ เป็นร้านเก่าแก่ที่เปิดมามากกว่า ดีค่ะ รสชาติอร่อย อร่อยมากๆ ฝนการ ร้านก็น่ารักมากๆค่ะ สาวที่อยากจะมานั่งเม้าท์มอย ชายกิน หลังจากกินทั้งวัน กลับกรุงเทพฯกันแล้วค่ะ เป็นยังไงบ้าง ที่อุทัยธานี จังหวัด เล็กๆที่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยว Unseen เปิดประสบการณ์ การท่องเที่ยวของเราได้ดีมากๆเลยค่ะ สำหรับใครที่สนใจ อยากลองตาม ลองมาได้เลยนะคะ รับรอง ท่าที่หมาแน่นอน เป็นยังไงกันบ้างครับกับพิกัดดีๆที่เราหยิบมาแนะนำกัน ถูกใจก็อย่าลืมกด Subscribe Channel ติดตามแฟนเพจชูไปไหนไปด้วยนะครับ จะได้ไม่พลาดเรื่องราวท่องเที่ยวอัพเดทใหม่จากพวกเรา